เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์] 3.สัตตาวาสวรรค 2.อัสสขฬุงกสูตร
ภิกษุทั้งหลาย ม้าดี 3 จำพวกนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย คนดี 3 จำพวกไหนบ้าง คือ
1. คนดีบางคนในโลกนี้ ฯลฯ
2. คนดีบางคนในโลกนี้ ฯลฯ
3. คนดีบางคนในโลกนี้สมบูรณ์ด้วยเชาว์ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ และ
สมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
ฯลฯ
คนดีสมบูรณ์ด้วยเชาว์ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ และสมบูรณ์ด้วยความสูงและ
ความใหญ่ เป็นอย่างไร
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ประการสิ้นไป จักเป็น
โอปปาติกะ1 ปรินิพพานในภพนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นแน่นอน เรากล่าวว่า
นี้เป็นเชาว์ของเขา เขาถูกถามปัญหาในอภิธรรมและอภิวินัย ก็ตอบได้ ไม่จนปัญญา
เรากล่าวว่า นี้เป็นวรรณะของเขา และเขาได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ
คิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร เรากล่าวว่า นี้เป็นความสูงและความใหญ่ของเขา
ภิกษุทั้งหลาย คนดีสมบูรณ์ด้วยเชาว์ สมบูรณ์ด้วยวรรณะ และสมบูรณ์ด้วย
ความสูงและความใหญ่ เป็นอย่างนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย คนดี 3 จำพวกนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยพันธุ์ดี 3 จำพวกไหนบ้าง คือ
1. ม้าอาชาไนยพันธุ์ดีบางตัวในโลกนี้ ฯลฯ
2. ม้าอาชาไนยพันธุ์ดีบางตัวในโลกนี้ ฯลฯ
3. ม้าอาชาไนยพันธุ์ดีบางตัวในโลกนี้สมบูรณ์ด้วยเชาว์ สมบูรณ์ด้วย
วรรณะ และสมบูรณ์ด้วยความสูงและความใหญ่
ภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยพันธุ์ดี 3 จำพวกนี้แล

เชิงอรรถ :
1 โอปปาติกะ หมายถึงสัตว์ที่เกิดและเติบโตเต็มที่ทันที และเมื่อจุติ (ตาย) ก็หายวับไป ไม่ทิ้งซากศพไว้ เช่น
เทวดาและสัตว์นรกเป็นต้น (เทียบ ที.สี.อ. 1/171/149) แต่ในที่นี้หมายถึงพระอนาคามีที่เกิดในสุทธาวาส
(ที่อยู่ของท่านผู้บริสุทธิ์) 5 ชั้น มีชั้นอวิหา เป็นต้น แล้วดำรงภาวะอยู่ในชั้นนั้น ๆ ปรินิพพานสิ้นกิเลสใน
สุทธาวาสนั่นเอง ไม่กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก (องฺ.ติก.อ. 2/87-88/242-243)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :479 }