พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 6.อัพยากตวรรค 3.ติสสพรหมสูตร
ท่านโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ เหล่าเทวดาชั้นพรหมกายิกาผู้ยินดีด้วยอายุที่เป็น
ของพรหม ยินดีด้วยวรรณะที่เป็นของพรหม ยินดีด้วยสุขที่เป็นของพรหม ยินดีด้วย
ยศที่เป็นของพรหม ยินดีด้วยความเป็นใหญ่ที่เป็นของพรหม ไม่รู้ชัดอุบายเป็น
เครื่องสลัดออกที่ยิ่งขึ้นไปตามความเป็นจริง เทวดาเหล่านั้นไม่มีญาณอย่างนี้ในบุคคล
ผู้ยังมีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ว่า ยังมีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ หรือในบุคคลผู้ไม่มี
อุปาทานขันธ์เหลืออยู่ว่า ไม่มีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่
ท่านโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ ส่วนเหล่าเทวดาชั้นพรหมกายิกาผู้ไม่ยินดีด้วย
อายุที่เป็นของพรหม ไม่ยินดีด้วยวรรณะที่เป็นของพรหม ไม่ยินดีด้วยสุขที่เป็นของ
พรหม ไม่ยินดีด้วยยศที่เป็นของพรหม ไม่ยินดีด้วยความเป็นใหญ่ที่เป็นของพรหม
รู้ชัดซึ่งอุบายเป็นเครื่องสลัดออกที่ยิ่งขึ้นไปตามความเป็นจริง เทวดาเหล่านั้นมีญาณ
อย่างนี้ในบุคคลผู้ยังมีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ว่า ยังมีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ หรือใน
บุคคลผู้ไม่มีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ว่า ไม่มีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่
ท่านโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นอุภโตภาควิมุต1 เทวดา
เหล่านั้นย่อมรู้จักภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้นี้เป็นอุภโตภาควิมุต กายของท่านจัก
ดำรงอยู่เพียงใด เหล่าเทวดาและมนุษย์จักเห็นท่านเพียงนั้น แต่เมื่อท่านมรณภาพไป
เหล่าเทวดาและมนุษย์จักไม่เห็นท่าน เทวดาเหล่านั้นมีญาณอย่างนี้ในบุคคลผู้ยังมี
อุปาทานขันธ์เหลืออยู่ว่า ยังมีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่ หรือในบุคคลผู้ไม่มีอุปาทานขันธ์
เหลืออยู่ว่า ไม่มีอุปาทานขันธ์เหลืออยู่
ท่านโมคคัลลานะผู้นิรทุกข์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นปัญญาวิมุต เทวดาเหล่านั้น
ย่อมรู้จักภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า ท่านผู้นี้เป็นปัญญาวิมุต กายของท่านจักดำรงอยู่เพียงใด
เชิงอรรถ :
1 คำว่า อุภโตภาควิมุต ปัญญาวิมุต กายสักขี ทิฏฐิปัตตะ สัทธาวิมุต ธัมมานุสารี ที่ปรากฏในติสสพรหม-
สูตรนี้ ดูความหมายในเชิงอรรถที่ 2,3,4,5 หน้า 20 และในเชิงอรรถที่ 1,2 หน้า 21 ในเล่มนี้ และดู
องฺ.ทสก. (แปล) 24/16/29-30