เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [1. ปฐมปัณณาสก์]
1. เสขพลวรรค 7. กามสูตร

7. กามสูตร
ว่าด้วยกาม

[7] ภิกษุทั้งหลาย โดยมาก สัตว์ทั้งหลายหมกมุ่นอยู่ในกาม1 กุลบุตรผู้ละ
เคียวและคานหาบหญ้าออกบวชเป็นบรรพชิต ควรเรียกว่า ‘กุลบุตรผู้มีศรัทธา
ออกบวช’ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาควรได้กามด้วยความเป็นหนุ่ม และกาม
เหล่านั้นก็มีระดับ คือ กามเลว กามปานกลาง และกามประณีต2 แต่กามทั้งหมดก็
นับว่า ‘กาม’ ทั้งนั้น

เปรียบเหมือนเด็กอ่อนนอนหงาย เอาชิ้นไม้หรือชิ้นกระเบื้องใส่เข้าไปในปาก
เพราะความพลั้งเผลอของพี่เลี้ยง พี่เลี้ยงพึงใส่ใจในเด็กนั้นทันที รีบนำชิ้นไม้หรือ
ชิ้นกระเบื้องออกโดยเร็ว ถ้าไม่สามารถนำออกโดยเร็วได้ ก็เอามือซ้ายจับโดยเร็ว
งอนิ้วมือข้างขวาแล้วแยงเข้าไปนำออกมาทั้งที่ยังมีโลหิต ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะ
ความลำบากนั้นจะมีแก่เด็ก เราไม่กล่าวว่า ‘ไม่มีความลำบาก’ และพี่เลี้ยงผู้หวัง
ประโยชน์เกื้อกูลอนุเคราะห์ พึงทำอย่างนั้นด้วยความอนุเคราะห์ แต่เมื่อใด เด็กนั้น
เจริญวัย มีปัญญาสามารถ เมื่อนั้น พี่เลี้ยงก็วางใจในเด็กนั้นว่า ‘บัดนี้ เด็กมีความ
สามารถรักษาตนเองได้ ไม่ประมาท’ ฉันใด
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้ที่เราต้องรักษาตลอดเวลา
ที่เธอยัง


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [1. ปฐมปัณณาสก์]
1. เสขพลวรรค 8. จวนสูตร

1. ไม่ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยศรัทธา
2. ไม่ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยหิริ
3. ไม่ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยโอตตัปปะ
4. ไม่ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยวิริยะ
5. ไม่ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยปัญญา

แต่เมื่อใด ภิกษุ

1. ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยศรัทธา
2. ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยหิริ
3. ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยโอตัปปะ
4. ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยวิริยะ
5. ทำสิ่งที่ควรทำในกุศลธรรมด้วยปัญญา

เมื่อนั้น เราก็วางใจในภิกษุนั้นได้ว่า ‘บัดนี้ ภิกษุมีความสามารถรักษาตนได้
ไม่ประมาท’

กามสูตรที่ 7 จบ

8. จวนสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้เคลื่อนจากพระศาสนา

[8] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อมเคลื่อน1 ไม่ตั้งมั่น
ในสัทธรรม2
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ

1. ภิกษุผู้ไม่มีศรัทธา ย่อมเคลื่อน ไม่ตั้งมั่นในสัทธรรม
2. ภิกษุผู้ไม่มีหิริ ย่อมเคลื่อน ไม่ตั้งมั่นในสัทธรรม
3. ภิกษุผู้ไม่มีโอตตัปปะ ย่อมเคลื่อน ไม่ตั้งมั่นในสัทธรรม