เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต [1. ปฐมปัณณาสก์] 3. อนุตตริยวรรค 2. อปริหานิยสูตร
ภิกษุทั้งหลาย ชนทั้งหลายบางพวกในอดีตเสื่อมแล้วจากกุศลธรรมทั้งหลาย
ชนเหล่านั้นทั้งหมดก็เสื่อมเพราะธรรม 6 ประการนี้แล
ชนทั้งหลายบางพวกในอนาคตจักเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย ชนเหล่านั้น
ทั้งหมดก็จักเสื่อมเพราะธรรม 6 ประการนี้แล
ชนทั้งหลายบางพวกในปัจจุบันกำลังเสื่อมจากกุศลธรรมทั้งหลาย ชนเหล่านั้น
ทั้งหมดก็เสื่อมเพราะธรรม 6 ประการนี้แล
สามกสูตรที่ 1 จบ
2. อปริหานิยสูตร
ว่าด้วยอปริหานิยธรรม
[22] ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอปริหานิยธรรม(ธรรมที่ไม่เป็นเหตุแห่ง
ความเสื่อม) 6 ประการนี้ เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ
อปริหานิยธรรม 6 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ความเป็นผู้ไม่ชอบการงาน1
2. ความเป็นผู้ไม่ชอบการพูดคุย2
3. ความเป็นผู้ไม่ชอบการนอนหลับ3

เชิงอรรถ :
1 ไม่ชอบการงาน ในที่นี้หมายถึงเมื่อพวกภิกษุทำกิจมีการทำจีวร ประคตเอว ผ้ากรองน้ำ ไม้กวาด และ
ผ้าเช็ดเท้าเป็นต้น ภิกษุปฏิเสธกิจเหล่านั้นเสียด้วยศรัทธา อนึ่ง หมายถึงทำกิจเหล่านั้นร่วมกับภิกษุทั้งหลาย
แล้วเรียนอุทเทสในเวลาเรียนอุทเทส สาธยายในเวลาสาธยาย กวาดลานพระเจดีย์ในเวลากวาดลานพระเจดีย์
มนสิการในเวลามนสิการ (องฺ.สตฺตก.อ. 3/24/176-177)
2 ไม่ชอบการพูดคุย ในที่นี้หมายถึงไม่สนทนาเรื่องเกี่ยวกับบุรุษและสตรีเป็นต้น แต่สนทนาเฉพาะเรื่อง
เกี่ยวกับธรรมในเวลากลางวันกลางคืนให้เป็นประโยชน์ ตอบปัญหาธรรมตลอดวันและคืน พูดน้อย พูดมีที่
จบ เพราะพุทธพจน์ว่า “ภิกษุผู้นั่งประชุมกันมีหน้าที่ 2 อย่าง คือ สนทนาธรรม และเป็นผู้นิ่งอย่างพระ
อริยะ” (องฺ.สตฺตก.อ. 3/24/177) และดู ม.มู. 12/273/235 (ปาสราสิสูตร)
3 ไม่ชอบการนอนหลับ ในที่นี้หมายถึงจะยืนก็ตาม จะเดินก็ตาม จะนั่งก็ตาม มีจิตตกภวังค์ เพราะกรช-
กายมีความเจ็บป่วยก็ตาม ก็ไม่ถูกถีนมิทธะครอบงำ เพราะฉะนั้นจึงมีพุทธพจน์ว่า “เรากลับจากบิณฑบาต
หลังจากฉันอาหารเสร็จแล้ว ปูลาดสังฆาฏิ 4 ชั้น มีสติสัมปชัญญะ หยั่งลงสู่การนอนหลับโดยพระปรัศว์
เบื้องขวารู้ชัดอยู่” (องฺ.สตฺตก.อ. 3/24/177) และดู ม.มู. 12/387/345 (มหาสัจจกสูตร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :452 }