เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [1. ปฐมปัณณาสก์]
1. เสขพลวรรค 2. วิตถตสูตร

หิริพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีหิริ คือละอายต่อกายทุจริต วจีทุจริต
มโนทุจริต ละอายต่อการประกอบบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เรียกว่า หิริพละ

โอตตัปปพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีโอตตัปปะ คือสะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต
วจีทุจริต มโนทุจริต สะดุ้งกลัวต่อการประกอบบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เรียกว่า
โอตตัปปพละ

วิริยพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้อยู่ปรารภความเพียร1 เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อให้
กุศลธรรมเกิด มีความเข้มแข็ง2 มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้ง
หลายอยู่ นี้เรียกว่า วิริยพละ

ปัญญาพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีปัญญา คือประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่อง
พิจารณาเห็นทั้งความเกิดและความดับอันเป็นอริยะ3 ชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์
โดยชอบ นี้เรียกว่า ปัญญาพละ


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [1. ปฐมปัณณาสก์]
1. เสขพลวรรค 3. ทุกขสูตร

ภิกษุทั้งหลาย เสขพละ 5 ประการนี้แล
ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า ‘เรา
ทั้งหลายจักเป็นผู้ประกอบด้วยสัทธาพละ หิริพละ โอตตัปปพละ วิริยพละ และ
ปัญญาพละ อันเป็นเสขพละ’
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล

วิตถตสูตรที่ 2 จบ

3. ทุกขสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้อยู่เป็นทุกข์

[3] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อมอยู่เป็นทุกข์
เดือดร้อน1 คับแค้นใจ เร่าร้อน2ในภพนี้แล หลังจากตายแล้วพึงหวังได้ทุคติ3
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้

1. เป็นผู้ไม่มีศรัทธา 2. เป็นผู้ไม่มีหิริ
3. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ 4. เป็นผู้เกียจคร้าน
5. เป็นผู้มีปัญญาทราม

ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมอยู่เป็นทุกข์ เดือดร้อน คับแค้นใจ
เร่าร้อนในภพนี้แล หลังจากตายแล้วพึงหวังได้ทุคติ
ส่วนภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการ ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน ไม่คับ
แค้นใจ ไม่เร่าร้อนในภพนี้แล หลังจากตายแล้วพึงหวังได้สุคติ