พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [5. ปัญจมปัณณาสก์] 5. ทุจจริตวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค
3. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่หลีกไปสู่ทิศ มีความคิดอย่างนี้ว่า บุคคล
ผู้เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้หลีกไปสู่ทิศเสียแล้ว จึงไม่คบภิกษุ
เหล่าอื่น เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม เมื่อไม่ฟัง
สัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิด
ขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ 3
4. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ลาสิกขา มีความคิดอย่างนี้ว่า บุคคลผู้
เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ได้ลาสิกขาไปแล้ว จึงไม่คบภิกษุ
เหล่าอื่น เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม เมื่อไม่ฟัง
สัทธรรม จึงเสื่อมจากสัทธรรม นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิด
ขึ้นเฉพาะบุคคลประการที่ 4
5. บุคคลผู้เลื่อมใสในบุคคลที่ตายแล้ว มีความคิดอย่างนี้ว่า บุคคลผู้
เป็นที่รัก เป็นที่พอใจของเรานี้ได้ตายเสียแล้ว จึงไม่คบภิกษุเหล่าอื่น
เมื่อไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ฟังสัทธรรม เมื่อไม่ฟังสัทธรรม
จึงเสื่อมจากสัทธรรม นี้เป็นโทษของความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะ
บุคคลประการที่ 5
ภิกษุทั้งหลาย ความเลื่อมใสที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคล มีโทษ 5 ประการนี้แล
ปุคคลัปปสาทสูตรที่ 10 จบ
ทุจจริตวรรคที่ 5 จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. ปฐมทุจจริตสูตร 2. ปฐมกายทุจจริตสูตร
3. ปฐมวจีทุจจริตสูตร 4. ปฐมมโนทุจจริตสูตร
5. ทุติยทุจจริตสูตร 6. ทุติยกายทุจจริตสูตร
7. ทุติยวจีทุจจริตสูตร 8. ทุติยมโนทุจจริตสูตร
9. สีวถิกสูตร 10. ปุคคลัปปสาทสูตร
ปัญจมปัณณาสก์ จบ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต 6. อุปสัมปทาวรรค 1. อุปสัมปาเทตัพพสูตร
6. อุปสัมปทาวรรค
หมวดว่าด้วยการอุปสมบท
1. อุปสัมปาเทตัพพสูตร1
ว่าด้วยคุณสมบัติของภิกษุผู้ให้อุปสมบท
[251] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5
ประการ พึงให้กุลบุตรอุปสมบทได้
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
1. เป็นผู้ประกอบด้วยสีลขันธ์ที่เป็นอเสขะ2
2. เป็นผู้ประกอบด้วยสมาธิขันธ์ที่เป็นอเสขะ
3. เป็นผู้ประกอบด้วยปัญญาขันธ์ที่เป็นอเสขะ
4. เป็นผู้ประกอบด้วยวิมุตติขันธ์ที่เป็นอเสขะ
5. เป็นผู้ประกอบด้วยวิมุตติญาณทัสสนขันธ์3ที่เป็นอเสขะ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล พึงให้กุลบุตร
อุปสมบทได้
อุปสัมปาเทตัพพสูตรที่ 1 จบ
เชิงอรรถ :
1 ข้อ 251-253 ดู วิ.ม. (แปล) 4/84/123
2 อเสขะ ในที่นี้หมายถึงธรรมระดับโลกุตตระของพระอเสขะ ได้แก่ พระอรหันต์ (วิ.อ. 3/84/48, องฺ.ทสก.อ.
3/12/320)
3 วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ หมายถึงกองแห่งวิมุตติญาณทัสสนะเป็นความรู้ขั้นสุดท้าย แยกอธิบายได้ว่า
วิมุตติ หมายถึงอรหัตตผล ญาณทัสสนะ หมายถึงปัจจเวกขณญาณ คือ ญาณที่เกิดขึ้นถัดจากการบรรลุ
มรรคผลด้วยมรรคญาณและผลญาณ เพื่อพิจารณามรรคผล พิจารณากิเลสที่ละได้และเหลืออยู่รวมทั้ง
พิจารณานิพพาน จัดเป็นโลกิยะ ส่วนสีลขันธ์เป็นต้นนอกนี้จัดเป็นโลกุตตระ (วิ.อ. 3/84/48, องฺ.ติก.อ.
2/58/160, องฺ.ทสก.อ. 3/1/318)