เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [4. จตุตถปัณณาสก์] 3. อุปาสกวรรค 6. ปีติสูตร
ภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม 5 ประการ เป็นอุบาสกแก้ว เป็น
อุบาสกปทุม และเป็นอุบาสกบุณฑริก
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. เป็นผู้มีศรัทธา
2. เป็นผู้มีศีล
3. เป็นผู้ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล
4. ไม่แสวงหาผู้รับทักษิณานอกศาสนานี้
5. ทำอุปการะในศาสนานี้ก่อน
ภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล เป็นอุบาสกแก้ว
เป็นอุบาสกปทุม และเป็นอุบาสกบุณฑริก
จัณฑาลสูตรที่ 5 จบ

6. ปีติสูตร
ว่าด้วยปีติ
[176] ครั้งนั้น อนาถบิณฑิกคหบดี มีอุบาสกประมาณ 500 คนแวดล้อม
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร พระผู้มี
พระภาคได้ตรัสเรื่องนี้ว่า
คหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ
คิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร ท่านทั้งหลายไม่ควรทำความยินดีด้วยเหตุเพียงเท่านี้ว่า
‘เราได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร’
เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า ‘พวกเราพึงบรรลุปีติที่เกิด
จากวิเวก1อยู่ตามกาลอันควรด้วยอุบายอย่างไร’ ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่าง
นี้แล

เชิงอรรถ :
1 ปีติที่เกิดจากวิเวก ในที่นี้หมายถึงปีติที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยปฐมฌานและทุติยฌาน (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/176/
68)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :293 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [4. จตุตถปัณณาสก์] 3. อุปาสกวรรค 6. ปีติสูตร
เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กราบทูลว่า “ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ ตามที่พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระ
ดำรัสนี้ว่า ‘คหบดี ท่านทั้งหลายได้บำรุงภิกษุสงฆ์ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และคิลานปัจจัยเภสัชชบริขาร เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่าง
นี้ว่า ‘พวกเราพึงบรรลุปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ตามกาลอันควร ด้วยอุบายอย่างไร
ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล’ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใดอริยสาวกบรรลุ
ปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ 5 ประการ คือ
1. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม1
2. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยกาม
3. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล2
4. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยอกุศล
5. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกุศล
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สมัยใด อริยสาวกบรรลุปีติที่เกิดจากวิเวกอยู่ สมัยนั้น
อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ 5 ประการนี้”
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร สมัยใด อริยสาวกบรรลุปีติที่เกิด
จากวิเวกอยู่ สมัยนั้น อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีฐานะ 5 ประการ คือ
1. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม
2. ไม่มีสุขโสมนัสอันประกอบด้วยกาม
3. ไม่มีทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล

เชิงอรรถ :
1 ทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยกาม หมายถึงทุกขโทมนัสที่เกิดขึ้นเพราะกาม 2 ประเภท คือวัตถุกาม และ
กิเลสกาม (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/176/68)
2 ทุกขโทมนัสอันประกอบด้วยอกุศล หมายถึงเมื่อบุคคลทำอกุศลกรรมเช่นยิงลูกศรไปด้วยคิดว่าจะฆ่าเนื้อ
และสุกร แต่เมื่อลูกศรผิดเป้าหมายไปก็เกิดทุกขโทมนัสขึ้นว่า ‘เรายิงพลาด’ (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/176/68)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :294 }