เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์] 4. ราชวรรค 7. อัปปังสุปติสูตร
เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘เราเป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท
ทั้งหลาย ไฉนเราจะไม่ปรารถนาความสิ้นอาสวะเล่า เราเป็นพหูสูต ทรงสุตะ สั่งสม
สุตะ ฯลฯ แทงตลอดดีด้วยทิฏฐิ ไฉนเราจะไม่ปรารถนาความสิ้นอาสวะเล่า เราเป็น
ผู้มีจิตตั้งมั่นดีแล้วในสติปัฏฐาน 4 ไฉนเราจะไม่ปรารถนาความสิ้นอาสวะเล่า เรา
เป็นผู้ปรารภความเพียรเพื่อละอกุศลธรรม ฯลฯ ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่
ไฉนเราจะไม่ปรารถนาความสิ้นอาสวะเล่า เราเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ ให้ถึงความสิ้น
ทุกข์โดยชอบ ไฉนเราจะไม่ปรารถนาความสิ้นอาสวะเล่า’
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล ย่อมปรารถนาความ
สิ้นอาสวะ
ทุติยปัตถนาสูตรที่ 6 จบ

7. อัปปังสุปติสูตร
ว่าด้วยคนหลับน้อย ตื่นมาก
[137] ภิกษุทั้งหลาย บุคคล 5 จำพวกนี้ หลับน้อย ตื่นมากในราตรี
บุคคล 5 จำพวกไหนบ้าง คือ
1. สตรีหลับน้อยตื่นมากเพราะประสงค์บุรุษ
2. บุรุษหลับน้อยตื่นมากเพราะประสงค์สตรี
3. โจรหลับน้อยตื่นมากเพราะประสงค์จะลักทรัพย์
4. พระราชาผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจทรงหลับน้อยตื่นมาก
5. ภิกษุผู้มุ่งถึงธรรมที่ปราศจากสังโยชน์1หลับน้อยตื่นมาก
ภิกษุทั้งหลาย บุคคล 5 จำพวกนี้แล หลับน้อย ตื่นมากในราตรี
อัปปังสุปติสูตรที่ 7 จบ

เชิงอรรถ :
1 ธรรมที่ปราศจากสังโยชน์ หมายถึงนิพพาน (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/137/53)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :222 }