เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 2. สัญญาวรรค 7. ปฐมอิทธิปาทสูตร
7. ปฐมอิทธิปาทสูตร
ว่าด้วยอิทธิบาท สูตรที่ 1
[67] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่งเจริญทำให้มากซึ่งธรรม
5 ประการ ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้นพึงหวังได้ผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผล
ในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้เจริญ
1. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร1
2. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยวิริยสมาธิและปธานสังขาร
3. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยจิตตสมาธิและปธานสังขาร
4. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยวีมังสาสมาธิและปธานสังขาร
5. ความขะมักเขม้น2
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดรูปหนึ่งเจริญทำให้มากซึ่งธรรม 5 ประการ
นี้แล ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้นพึงหวังได้ผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลใน
ปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
ปฐมอิทธิปาทสูตรที่ 7 จบ

เชิงอรรถ :
1 ฉันทสมาธิ หมายถึงสมาธิที่เกิดจากฉันทะ
ปธานสังขาร หมายถึงความเพียรที่มุ่งมั่น วิริยสมาธิ จิตตสมาธิและวีมังสาสมาธิ ก็มีอรรถาธิบายเช่นเดียวกัน
เป็นทั้งโลกิยะและโลกุตตระ (องฺ.เอกก.อ. 1/389-401/445)
2 ความขะมักเขม้น (อุสฺโสฬฺหิ) หมายถึงอธิมัตตวิริยะ (ความเพียรชั้นสูง) (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/67-70/33)
และดู องฺ.จตุกฺก. (แปล) 21/93/141

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :115 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 2. สัญญาวรรค 8. ทุติยอิทธิปาทสูตร
8. ทุติยอิทธิปาทสูตร
ว่าด้วยอิทธิบาท สูตรที่ 2
[68] ภิกษุทั้งหลาย ก่อนจะตรัสรู้ เราเป็นพระโพธิสัตว์ ยังไม่ได้ตรัสรู้
ได้เจริญทำให้มากซึ่งธรรม 5 ประการ
ธรรม 5 ประการ อะไรบ้าง คือ
เราได้เจริญ
1. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร
2. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยวิริยสมาธิและปธานสังขาร
3. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยจิตตสมาธิและปธานสังขาร
4. อิทธิบาทที่ประกอบด้วยวีมังสาสมาธิและปธานสังขาร
5. ความขะมักเขม้น
ภิกษุทั้งหลาย เพราะได้เจริญทำให้มากซึ่งธรรมมีความขะมักเขม้นเป็นที่ 5 นี้
เราจึงได้น้อมจิตไปเพื่อทำให้แจ้งธรรมที่จะพึงทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งใดๆเมื่อมีเหตุ1
เราจึงบรรลุความเป็นผู้เหมาะสมที่จะประจักษ์ชัดในธรรมนั้น ๆ
ถ้าเรานั้นพึงหวังว่า ‘เราพึงแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คนเดียวแสดงเป็น
หลายคนก็ได้ ฯลฯ2 ใช้อำนาจทางกายไปจนถึงพรหมโลกก็ได้’ เมื่อมีเหตุ เราจึง
บรรลุความเป็นผู้เหมาะสมที่จะประจักษ์ชัดในธรรมนั้น ๆ
ถ้าเรานั้นพึงหวังว่า ฯลฯ เราพึงทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มี
อาสวะ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบัน เมื่อมีเหตุ เรา
จึงบรรลุความเป็นผู้เหมาะสมที่จะประจักษ์ชัดในธรรมนั้น ๆ3
ทุติยอิทธิปาทสูตรที่ 8 จบ

เชิงอรรถ :
1 ดูเชิงอรรถที่ 1 ข้อ 23 (อุปกิเลสสูตร) หน้า 28 ในเล่มนี้
2 “ฯลฯ” ที่ปรากฏในสูตรนี้ ดูความเต็มในข้อ 23 (อุปกิเลสสูตร) หน้า 28-30 ในเล่มนี้
3 ในสูตรนี้นอกจากพระองค์จะทรงแสดงอิทธิบาทที่เป็นเหตุให้พระองค์บรรลุปฏิเวธที่ควงไม้โพธิ์แล้ว ยังได้
ทรงแสดงอภิญญา 4 ประการที่พระองค์บรรลุ เพิ่มเติมอีกด้วย (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/67-70/33)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 22 หน้า :116 }