พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [5.ปัฐจมปัณณาสก์]
4.กัมมวรรค 9. อัพยาปัชฌสูตร
9. อัพยาปัชฌสูตร
ว่าด้วยกรรมและทิฏฐิที่ไม่มีความเบียดเบียน
[240] ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการย่อมดำรงอยู่
ในนรกเหมือนถูกนำไปฝังไว้
ธรรม 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กายกรรมที่มีความเบียดเบียน
2. วจีกรรมที่มีความเบียดเบียน
3. มโนกรรมที่มีความเบียดเบียน
4. ทิฏฐิที่มีความเบียดเบียน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แลย่อมดำรงอยู่
ในนรกเหมือนถูกนำไปฝังไว้
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการย่อมดำรงอยู่ในสวรรค์
เหมือนได้รับอัญเชิญไปประดิษฐานไว้
ธรรม 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กายกรรมที่ไม่มีความเบียดเบียน
2. วจีกรรมที่ไม่มีความเบียดเบียน
3. มโนกรรมที่ไม่มีความเบียดเบียน
4. ทิฏฐิที่ไม่มีความเบียดเบียน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แลย่อมดำรงอยู่
ในสวรรค์เหมือนได้รับอัญเชิญไปประดิษฐานไว้
อัพยาปัชฌสูตรที่ 9 จบ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [5.ปัฐจมปัณณาสก์]
4.กัมมวรรค 10.สมณสูตร
10. สมณสูตร
ว่าด้วยสมณะ
[241] ภิกษุทั้งหลาย สมณะที่ 1 สมณะที่ 2 สมณะที่ 3 และสมณะที่ 4 มี
ในธรรมวินัยนี้เท่านั้น ลัทธิอื่น1ว่างจากสมณะทั้ง 4 เธอทั้งหลายจงบันลือสีหนาท2
โดยชอบเถิด
สมณะที่ 1 เป็นอย่างไร
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไปจึงเป็นพระโสดาบัน
ไม่มีทางตกต่ำ มีความแน่นอนที่จะสำเร็จสัมโพธิ3ในวันข้างหน้า นี้เป็นสมณะที่ 1
สมณะที่ 2 เป็นอย่างไร
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสังโยชน์ 3 ประการสิ้นไปและเพราะราคะ โทสะ
โมหะเบาบาง จึงเป็นพระสกทาคามี มาสู่โลกนี้ครั้งเดียวเท่านั้นก็จะทำที่สุดแห่ง
ทุกข์ได้ นี้เป็นสมณะที่ 2
สมณะที่ 3 เป็นอย่างไร
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ประการสิ้นไป จึงเป็น
โอปปาติกะ4 ปรินิพพานในภพนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นอย่างแน่นอน นี้เป็น
สมณะที่ 3
