เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [4.จตุตถปัณณาสก์]
3.สัญเจตนิยวรรค 4.อานันทสูตร

“ผู้มีอายุ เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่น
ยังมีอยู่หรือ”
ท่านพระมหาโกฏฐิตะตอบว่า “ผู้มีอายุ อย่ากล่าวอย่างนั้น”
ท่านพระอานนท์ถามว่า “เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วย
วิราคะ อะไรอื่นไม่มีอยู่หรือ”
“ผู้มีอายุ อย่ากล่าวอย่างนั้น”
“ผู้มีอายุ เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่น
ทั้งมีอยู่ และไม่มีอยู่หรือ”
“ผู้มีอายุ อย่ากล่าวอย่างนั้น”
“ผู้มีอายุ เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่น
มีอยู่ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่หรือ”
“ผู้มีอายุ อย่ากล่าวอย่างนั้น”
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า “เมื่อผมถามว่า ‘ผู้มีอายุ เพราะผัสสายตนะ 6
ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นยังมีอยู่หรือ’ ท่านตอบว่า ‘อย่ากล่าว
อย่างนั้น’ เมื่อผมถามว่า ‘เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ
อะไรอื่นไม่มีอยู่หรือ’ ท่านก็ตอบว่า ‘อย่ากล่าวอย่างนั้น’ เมื่อผมถามว่า ‘เพราะ
ผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นทั้งมีอยู่และไม่มีอยู่หรือ’
ท่านก็ตอบว่า ‘อย่ากล่าวอย่างนั้น’ เมื่อผมถามว่า ‘เพราะผัสสายตนะ 6 ประการ
ดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นมีอยู่ก็มิใช่ ไม่มีอยู่ก็มิใช่หรือ’ ท่านก็ตอบว่า ‘อย่า
กล่าวอย่างนั้น’ ผู้มีอายุ ก็คำที่ท่านกล่าวแล้วนี้จะทราบความหมายได้อย่างไร”
ท่านพระมหาโกฏฐิตะกล่าวว่า “ผู้มีอายุ เมื่อบุคคลกล่าวว่า ‘เพราะผัสสายตนะ
6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นยังมีอยู่หรือ’ ชื่อว่าคิดปรุงแต่งสิ่งที่ไม่
ควรคิดปรุงแต่ง เมื่อบุคคลกล่าวว่า ‘เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วย
วิราคะ อะไรอื่นไม่มีอยู่หรือ’ ชื่อว่าคิดปรุงแต่งสิ่งที่ไม่ควรคิดปรุงแต่ง เมื่อบุคคล
กล่าวว่า ‘เพราะผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นทั้งมีอยู่
และไม่มีอยู่หรือ’ ชื่อว่าคิดปรุงแต่งสิ่งที่ไม่ควรคิดปรุงแต่ง เมื่อบุคคลกล่าวว่า ‘เมื่อ
ผัสสายตนะ 6 ประการดับไปไม่เหลือด้วยวิราคะ อะไรอื่นมีอยู่ก็มิใช่ไม่มีอยู่ก็มิใช่’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 21 หน้า :246 }