พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [3.ตติยปัณณาสก์]
5.อาภาวรรค 5. ปัชโชตสูตร
1. ความสว่างแห่งดวงจันทร์ 2. ความสว่างแห่งดวงอาทิตย์
3. ความสว่างแห่งไฟ 4. ความสว่างแห่งปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ความสว่าง 4 ประการนี้แล
บรรดาความสว่าง 4 ประการนี้ ความสว่างแห่งปัญญาเป็นเลิศ
อาโลกสูตรที่ 3 จบ
4. โอภาสสูตร
ว่าด้วยความสว่างไสว
[144] ภิกษุทั้งหลาย ความสว่างไสว 4 ประการนี้
ความสว่างไสว 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ความสว่างไสวแห่งดวงจันทร์ 2. ความสว่างไสวแห่งดวงอาทิตย์
3. ความสว่างไสวแห่งไฟ 4. ความสว่างไสวแห่งปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ความสว่างไสว 4 ประการนี้แล
บรรดาความสว่างไสว 4 ประการนี้ ความสว่างไสวแห่งปัญญาเป็นเลิศ
โอภาสสูตรที่ 4 จบ
5. ปัชโชตสูตร
ว่าด้วยความรุ่งเรือง
[145] ภิกษุทั้งหลาย ความรุ่งเรือง 4 ประการนี้
ความรุ่งเรือง 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ความรุ่งเรืองแห่งดวงจันทร์ 2. ความรุ่งเรืองแห่งดวงอาทิตย์
3. ความรุ่งเรืองแห่งไฟ 4. ความรุ่งเรืองแห่งปัญญา
ภิกษุทั้งหลาย ความรุ่งเรือง 4 ประการนี้แล
บรรดาความรุ่งเรือง 4 ประการนี้ ความรุ่งเรืองแห่งปัญญาเป็นเลิศ
ปัชโชตสูตรที่ 5 จบ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [3.ตติยปัณณาสก์]
5.อาภาวรรค 7.ทุติยกาลสูตร
6. ปฐมกาลสูตร
ว่าด้วยกาล สูตรที่ 1
[146] ภิกษุทั้งหลาย กาล 4 ประการนี้
กาล 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. การฟังธรรมตามกาล1 2. การสนทนาธรรม2ตามกาล
3. ความสงบใจตามกาล 4. ความเห็นแจ้งตามกาล
ภิกษุทั้งหลาย กาล 4 ประการนี้แล
ปฐมกาลสูตรที่ 6 จบ
7. ทุติยกาลสูตร
ว่าด้วยกาล สูตรที่ 2
[147] ภิกษุทั้งหลาย กาล 4 ประการนี้ที่บุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้หมุน
เวียนไปตามโดยชอบ ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะตามลำดับ
กาล 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. การฟังธรรมตามกาล 2. การสนทนาธรรมตามกาล
3. ความสงบใจตามกาล 4. ความเห็นแจ้งตามกาล
กาล 4 ประการนี้แลที่บุคคลบำเพ็ญโดยชอบ ให้หมุนเวียนไปตามโดยชอบ
ย่อมให้ถึงความสิ้นอาสวะตามลำดับ
เปรียบเหมือนเมื่อฝนเม็ดใหญ่ตกลงบนยอดภูเขา น้ำไหลไปตามที่ลุ่มทำให้ซอกเขา
ลำธาร และห้วยเต็ม ซอกเขา ลำธาร และห้วยเต็มแล้วทำให้หนองเต็ม หนองเต็ม
แล้วทำให้บึงเต็ม บึงเต็มแล้วทำให้แม่น้ำน้อยเต็ม แม่น้ำน้อยเต็มแล้ว ทำให้แม่น้ำ
ใหญ่เต็ม แม่น้ำใหญ่เต็มแล้วก็ทำให้มหาสมุทรเต็ม แม้ฉันใด
