เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์]
1.ภัณฑคามวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค

ความดับ คุณ โทษ และเครื่องสลัดผัสสายตนะ 6 ประการออกไปตามความเป็นจริง
ความไม่รู้ ความไม่หยั่งรู้ย่อมไม่เกิดขึ้นในผัสสายตนะ 6 ประการ นี้เรียกว่า
ความพรากจากอวิชชาโยคะ
ความพรากจากกามโยคะ ความพรากจากภวโยคะ ความพรากจากทิฏฐิโยคะ
และความพรากจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างนี้
บุคคลผู้พรากจากบาปอกุศลธรรมที่ทำจิตให้เศร้าหมอง ทำให้เกิดในภพใหม่
มีความกระวนกระวาย มีทุกข์เป็นผล มีชาติ ชรา และมรณะต่อไปอีก เพราะเหตุ
นั้น จึงเรียกว่า ผู้มีความเกษมจากโยคะ
ภิกษุทั้งหลาย ความพรากจากโยคะ 4 ประการนี้แล
สัตว์ทั้งหลายผู้ประกอบด้วยกามโยคะ
ภวโยคะ ทิฏฐิโยคะ และอวิชชาโยคะ
ถึงชาติและมรณะอยู่เป็นประจำ ย่อมไปสู่สังสารวัฏ
ส่วนสัตว์เหล่าใดกำหนดรู้กามโยคะ
และภวโยคะโดยประการทั้งปวง
ถอนทิฏฐิโยคะและคลายอวิชชาออกได้
สัตว์เหล่านั้นแลย่อมพรากจากโยคะทั้งปวง
ล่วงพ้นโยคะ เป็นมุนี1

โยคสูตรที่ 10 จบ
ภัณฑคามวรรคที่ 1 จบ

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ

1. อนุพุทธสูตร 2. ปปติตสูตร
3. ปฐมขตสูตร 4. ทุติยขตสูตร
5. อนุโสตสูตร 6. อัปปัสสุตสูตร
7. โสภณสูตร 8. เวสารัชชสูตร
9. ตัณหุปปาทสูตร 10. โยคสูตร


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์] 2.จรวรรค 1.จรสูตร

2. จรวรรค
หมวดว่าด้วยอิริยาบถเดิน
1. จรสูตร
ว่าด้วยอิริยาบถเดิน

[11] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ถ้ากามวิตก (ความตรึกในทาง
กาม) พยาบาทวิตก (ความตรึกในทางพยาบาท) หรือวิหิงสาวิตก (ความตรึกใน
ทางเบียดเบียน) เกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้กำลังเดิน และภิกษุยินดีวิตกนั้น ไม่ละ ไม่บรรเทา
ไม่ทำให้หมดสิ้นไป ไม่ทำให้ถึงความไม่มี ภิกษุแม้กำลังเดิน ผู้เป็นอย่างนี้1ไม่มี
ความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เราเรียกว่า ‘ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อนต่อ
เนื่องตลอดไป’
ถ้ากามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้กำลังยืน และ
ภิกษุยินดีวิตกนั้น ไม่ละ ไม่บรรเทา ไม่ทำให้หมดสิ้นไป ไม่ทำให้ถึงความไม่มี
ภิกษุแม้กำลังยืน ผู้เป็นอย่างนี้ไม่มีความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เราก็เรียกว่า ‘ผู้
เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อนต่อเนื่องตลอดไป’
ถ้ากามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้กำลังนั่ง และ
ภิกษุยินดีวิตกนั้น ไม่ละ ไม่บรรเทา ไม่ทำให้หมดสิ้นไป ไม่ทำให้ถึงความไม่มี
ภิกษุแม้กำลังนั่ง ผู้เป็นอย่างนี้ไม่มีความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เราก็เรียกว่า ‘ผู้
เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อนต่อเนื่องตลอดไป’
ถ้ากามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้กำลังนอน ตื่นอยู่
และภิกษุยินดีวิตกนั้น ไม่ละ ไม่บรรเทา ไม่ทำให้หมดสิ้นไป ไม่ทำให้ถึงความไม่มี
ภิกษุแม้กำลังนอน ตื่นอยู่ ผู้เป็นอย่างนี้ไม่มีความเพียร ไม่มีโอตตัปปะ เราก็เรียกว่า
‘ผู้เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อนต่อเนื่องตลอดไป’
ถ้ากามวิตก พยาบาทวิตก หรือวิหิงสาวิตกเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้กำลังเดิน และ
ภิกษุไม่ยินดีวิตกนั้น ละ บรรเทา ทำให้หมดสิ้นไป ทำให้ถึงความไม่มี ภิกษุแม้