เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์]
1.ภัณฑคามวรรค 9.ตัณหุปปาทสูตร

9. ตัณหุปปาทสูตร
ว่าด้วยเหตุเกิดแห่งตัณหา

[9] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย มีเหตุเกิดแห่งตัณหา 4 ประการ
นี้ ที่ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่ภิกษุ ย่อมเกิดขึ้นได้
มีเหตุเกิดแห่งตัณหา 4 ประการ1 อะไรบ้าง คือ
1. ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่ภิกษุ ย่อมเกิดเพราะจีวรเป็นเหตุ
2. ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่ภิกษุ ย่อมเกิดเพราะบิณฑบาตเป็นเหตุ
3. ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่ภิกษุ ย่อมเกิดเพราะเสนาสนะเป็นเหตุ
4. ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่ภิกษุ ย่อมเกิดเพราะปัจจัยที่ดีและดีกว่า2
ภิกษุทั้งหลาย มีเหตุเกิดแห่งตัณหา 4 ประการนี้แลที่ตัณหาเมื่อจะเกิดแก่
่ภิกษุ ย่อมเกิดขึ้นได้
บุคคลมีตัณหาเป็นเพื่อน
เที่ยวไปตลอดกาลยาวนาน
ย่อมไม่ล่วงพ้นสังสารวัฏ
ที่มีสภาวะอย่างนี้และสภาวะอย่างอื่น3
ภิกษุรู้โทษนี้ รู้ตัณหาเป็นเหตุให้เกิดทุกข์
พึงเป็นผู้ไม่มีตัณหา ไม่มีความถือมั่น
มีสติสัมปชัญญะอยู่

ตัณหุปปาทสูตรที่ 9 จบ


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์]
1.ภัณฑคามวรรค 10.โยคสูตร

10. โยคสูตร
ว่าด้วยโยคะ

[10] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย โยคะ (กิเลสที่ผูกมัดสัตว์ไว้ในภพ)
4 ประการนี้
โยคะ 4 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กามโยคะ 2. ภวโยคะ
3. ทิฏฐิโยคะ 4. อวิชชาโยคะ
กามโยคะ เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อมไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ คุณ1 โทษ2 และ
เครื่องสลัดกามทั้งหลายออกไปตามความเป็นจริง เมื่อเขาไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ
คุณ โทษ และเครื่องสลัดกามทั้งหลายออกไปตามความเป็นจริง ความกำหนัด
เพราะกาม ความเพลิดเพลินเพราะกาม ความเยื่อใยเพราะกาม ความหมกมุ่น
เพราะกาม ความกระหายเพราะกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความติดเพราะกาม
ความอยากเพราะกามย่อมเกิดขึ้นในกามทั้งหลาย3 นี้เรียกว่า กามโยคะ
กามโยคะ เป็นอย่างนี้
ภวโยคะ เป็นอย่างไร
คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ย่อมไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ คุณ โทษ และ
เครื่องสลัดภพทั้งหลายออกไปตามความเป็นจริง เมื่อเขาไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ
คุณ โทษ และเครื่องสลัดภพทั้งหลายออกไปตามความเป็นจริง ความกำหนัดเพราะ
ภพ ความเพลิดเพลินเพราะภพ ความเยื่อใยเพราะภพ ความหมกมุ่นเพราะภพ
ความกระหายเพราะภพ ความเร่าร้อนเพราะภพ ความติด เพราะภพ ความอยาก
เพราะภพย่อมเกิดขึ้นในภพทั้งหลาย นี้เรียกว่า ภวโยคะ
กามโยคะและภวโยคะ เป็นอย่างนี้