เมนู

อวีตตณฺโห หิ ปาปิจฺโฉ กุหกตาย สมฺภาวนาธิปฺปาเยน อตฺตานํ ชานาเปติฯ ทนฺตนฺติ ฉฬงฺคุเปกฺขาวเสน อินฺทฺริเยสุ อุตฺตมทมเนน ทนฺตํฯ สาเร ปติฏฺฐิตนฺติ วิมุตฺติสาเร อวฏฺฐิตํ, อเสกฺขสีลกฺขนฺธาทิเก วา สีลาทิสาเร ปติฏฺฐิตํฯ ขีณาสวํ วนฺตโทสนฺติ กามาสวาทีนํ จตุนฺนํ อาสวานํ อนวเสสํ ปหีนตฺตา ขีณาสวํฯ ตโต เอว ราคาทิโทสานํ สพฺพโส วนฺตตฺตา วนฺตโทสํฯ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณนฺติ ตํ ยถาวุตฺตคุณํ ปรมตฺถพฺราหฺมณํ อหํ พฺราหฺมณนฺติ วทามีติฯ อิธาปิ เหฏฺฐา วุตฺตนเยเนว เทสนานานตฺตํ เวทิตพฺพํฯ

ฉฏฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. อชกลาปกสุตฺตวณฺณนา

[7] สตฺตเม ปาวายนฺติ เอวํนามเก มลฺลราชูนํ นคเรฯ อชกลาปเก เจติเยติ อชกลาปเกน นาม ยกฺเขน ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘อชกลาปก’’นฺติ ลทฺธนาเม มนุสฺสานํ จิตฺตีกตฏฺฐาเน ฯ โส กิร ยกฺโข อเช กลาเป กตฺวา พนฺธเนน อชโกฏฺฐาเสน สทฺธิํ พลิํ ปฏิจฺฉติ, น อญฺญถา, ตสฺมา ‘‘อชกลาปโก’’ติ ปญฺญายิตฺถฯ เกจิ ปนาหุ – อชเก วิย สตฺเต ลาเปตีติ อชกลาปโกติฯ ตสฺส กิร สตฺตา พลิํ อุปเนตฺวา ยทา อชสทฺทํ กตฺวา พลิํ อุปหรนฺติ, ตทา โส ตุสฺสติ, ตสฺมา ‘‘อชกลาปโก’’ติ วุจฺจตีติฯ โส ปน ยกฺโข อานุภาวสมฺปนฺโน กกฺขโฬ ผรุโส ตตฺถ จ สนฺนิหิโต, ตสฺมา ตํ ฐานํ มนุสฺสา จิตฺติํ กโรนฺติ, กาเลน กาลํ พลิํ อุปหรนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อชกลาปเก เจติเย’’ติฯ อชกลาปกสฺส ยกฺขสฺส ภวเนติ ตสฺส ยกฺขสฺส วิมาเนฯ

ตทา กิร สตฺถา ตํ ยกฺขํ ทเมตุกาโม สายนฺหสมเย เอโก อทุติโย ปตฺตจีวรํ อาทาย อชกลาปกสฺส ยกฺขสฺส ภวนทฺวารํ คนฺตฺวา ตสฺส โทวาริกํ ภวนปวิสนตฺถาย ยาจิฯ

โส ‘‘กกฺขโฬ, ภนฺเต, อชกลาปโก ยกฺโข, สมโณติ วา พฺราหฺมโณติ วา คารวํ น กโรติ, ตสฺมา ตุมฺเห เอว ชานาถ, มยฺหํ ปน ตสฺส อนาโรจนํ น ยุตฺต’’นฺติ ตาวเทว ยกฺขสมาคมํ คตสฺส อชกลาปกสฺส สนฺติกํ วาตเวเคน อคมาสิฯ สตฺถา อนฺโตภวนํ ปวิสิตฺวา อชกลาปกสฺส นิสีทนมณฺฑเป ปญฺญตฺตาสเน นิสีทิฯ ยกฺขสฺส โอโรธา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ สตฺถา ตาสํ กาลยุตฺตํ ธมฺมิํ กถํ กเถสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ปาวายํ วิหรติ อชกลาปเก เจติเย อชกลาปกสฺส ยกฺขสฺส ภวเน’’ติฯ

ตสฺมิํ สมเย สาตาคิรเหมวตา อชกลาปกสฺส ภวนมตฺถเกน ยกฺขสมาคมํ คจฺฉนฺตา อตฺตโน คมเน อสมฺปชฺชมาเน ‘‘กิํ นุ โข การณ’’นฺติ อาวชฺเชนฺตา สตฺถารํ อชกลาปกสฺส ภวเน นิสินฺนํ ทิสฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘มยํ, ภนฺเต, ยกฺขสมาคมํ คมิสฺสามา’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา คตา ยกฺขสนฺนิปาเต อชกลาปกํ ทิสฺวา ตุฏฺฐิํ ปเวทยิํสุ ‘‘ลาภา เต, อาวุโส, อชกลาปก, ยสฺส เต ภวเน สเทวเก โลเก อคฺคปุคฺคโล ภควา นิสินฺโน, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ ปยิรุปาสสฺสุ, ธมฺมญฺจ สุณาหี’’ติฯ โส เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘อิเม ตสฺส มุณฺฑกสฺส สมณกสฺส มม ภวเน นิสินฺนภาวํ กเถนฺตี’’ติ โกธาภิภูโต หุตฺวา ‘‘อชฺช มยฺหํ เตน สมเณน สทฺธิํ สงฺคาโม ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยกฺขสนฺนิปาตโต อุฏฺฐหิตฺวา ทกฺขิณํ ปาทํ อุกฺขิปิตฺวา สฏฺฐิโยชนมตฺตํ ปพฺพตกูฏํ อกฺกมิ, ตํ ภิชฺชิตฺวา ทฺวิธา อโหสิฯ เสสํ เอตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อาฬวกสุตฺตวณฺณนายํ (สํ. นิ. อฏฺฐ. 1.1.246) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

อชกลาปกสฺส สมาคโม หิ อาฬวกสมาคมสทิโสว ฐเปตฺวา ปญฺหกรณํ วิสฺสชฺชนํ ภวนโต ติกฺขตฺตุํ นิกฺขมนํ ปเวสนญฺจฯ อชกลาปโก หิ อาคจฺฉนฺโตเยว ‘‘เอเตหิเยว ตํ สมณํ ปลาเปสฺสามี’’ติ วาตมณฺฑลาทิเก นววสฺเส สมุฏฺฐาเปตฺวา เตหิ ภควโต จลนมตฺตมฺปิ กาตุํ อสกฺโกนฺโต นานาวิธปฺปหรณหตฺเถ อติวิย ภยานกรูเป ภูตคเณ นิมฺมินิตฺวา เตหิ สทฺธิํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อนฺตนฺเตเนว จรนฺโต สพฺพรตฺติํ นานปฺปการํ วิปฺปการํ กตฺวาปิ ภควโต กิญฺจิ เกสคฺคมตฺตมฺปิ นิสินฺนฏฺฐานโต จลนํ กาตุํ นาสกฺขิฯ เกวลํ ปน ‘‘อยํ สมโณ มํ อนาปุจฺฉา มยฺหํ ภวนํ ปวิสิตฺวา นิสีทตี’’ติ โกธวเสน ปชฺชลิฯ

อถสฺส ภควา จิตฺตปฺปวตฺติํ ญตฺวา ‘‘เสยฺยถาปิ นาม จณฺฑสฺส กุกฺกุรสฺส นาสาย ปิตฺตํ ภินฺเทยฺย, เอวํ โส ภิยฺโยโสมตฺตาย จณฺฑตโร อสฺส, เอวเมวายํ ยกฺโข มยิ อิธ นิสินฺเน จิตฺตํ ปทูเสติ, ยํนูนาหํ พหิ นิกฺขเมยฺย’’นฺติ สยเมว ภวนโต นิกฺขมิตฺวา อพฺโภกาเส นิสีทิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺตนฺธการติมิสายํ อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหตี’’ติฯ

ตตฺถ รตฺตนฺธการติมิสายนฺติ รตฺติยํ อนฺธกรณตมสิ, จกฺขุวิญฺญาณุปฺปตฺติวิรหิเต พหลนฺธกาเรติ อตฺโถฯ จตุรงฺคสมนฺนาคโต กิร ตทา อนฺธกาโร ปวตฺตีติฯ เทโวติ เมโฆ เอกเมกํ ผุสิตกํ อุทกพินฺทุํ ปาเตติฯ อถ ยกฺโข ‘‘อิมินา สทฺเทน ตาเสตฺวา อิมํ สมณํ ปลาเปสฺสามี’’ติ ภควโต สมีปํ คนฺตฺวา ‘‘อกฺกุโล’’ติอาทินา ตํ ภิํสนํ อกาสิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข อชกลาปโก’’ติอาทิฯ ตตฺถ ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสํ, ฉมฺภิตตฺตนฺติ อูรุตฺถมฺภกสรีรสฺส ฉมฺภิตภาวํฯ โลมหํสนฺติ โลมานํ ปหฏฺฐภาวํ, ตีหิปิ ปเทหิ ภยุปฺปตฺติเมว ทสฺเสติฯ อุปสงฺกมีติ กสฺมา ปนายํ เอวมธิปฺปาโย อุปสงฺกมิ, นนุ ปุพฺเพ อตฺตนา กาตพฺพํ วิปฺปการํ อกาสีติ? สจฺจมกาสิ, ตํ ปเนส ‘‘อนฺโตภวเน เขมฏฺฐาเน ถิรภูมิยํ ฐิตสฺส น กิญฺจิ กาตุํ อสกฺขิ, อิทานิ พหิ ฐิตํ เอวํ ภิํสาเปตฺวา ปลาเปตุํ สกฺกา’’ติ มญฺญมาโน อุปสงฺกมิฯ อยญฺหิ ยกฺโข อตฺตโน ภวนํ ‘‘ถิรภูมี’’ติ มญฺญติ, ‘‘ตตฺถ ฐิตตฺตา อยํ สมโณ น ภายตี’’ติ จฯ

ติกฺขตฺตุํ ‘‘อกฺกุโล ปกฺกุโล’’ติ อกฺกุลปกฺกุลิกํ อกาสีติ ตโย วาเร ‘‘อกฺกุโล ปกฺกุโล’’ติ ภิํสาเปตุกามตาย เอวรูปํ สทฺทํ อกาสิฯ อนุกรณสทฺโท หิ อยํฯ

ตทา หิ โส ยกฺโข สิเนรุํ อุกฺขิปนฺโต วิย มหาปถวิํ ปริวตฺเตนฺโต วิย จ มหตา อุสฺสาเหน อสนิสตสทฺทสงฺฆาฏํ วิย เอกสฺมิํ ฐาเน ปุญฺชีกตํ หุตฺวา วินิจฺฉรนฺตํ ทิสาคชานํ หตฺถิคชฺชิตํ, เกสรสีหานํ สีหนินฺนาทํ , ยกฺขานํ หิํการสทฺทํ, ภูตานํ อฏฺฏหาสํ, อสุรานํ อปฺโผฏนโฆสํ , อินฺทสฺส เทวรญฺโญ วชิรนิคฺฆาตนิคฺโฆสํ, อตฺตโน คมฺภีรตาย วิปฺผาริกตาย ภยานกตาย จ อวเสสสทฺทํ อวหสนฺตมิว อภิภวนฺตมิว จ กปฺปวุฏฺฐานมหาวาตมณฺฑลิกาย วินิคฺโฆสํ ปุถุชฺชนานํ หทยํ ผาเลนฺตํ วิย มหนฺตํ ปฏิภยนิคฺโฆสํ อพฺยตฺตกฺขรํ ติกฺขตฺตุํ อตฺตโน ยกฺขคชฺชิตํ คชฺชิ ‘‘เอเตน อิมํ สมณํ ภิํสาเปตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติฯ ยํ ยํ นิจฺฉรติ, เตน เตน ปพฺพตา ปปฏิกํ มุญฺจิํสุ, วนปฺปติเชฏฺฐเก อุปาทาย สพฺเพสุ รุกฺขลตาคุมฺเพสุ ปตฺตผลปุปฺผานิ สีทยิํสุ, ติโยชนสหสฺสวิตฺถโตปิ หิมวนฺตปพฺพตราชา สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ, ภุมฺมเทวตา อาทิํ กตฺวา เยภุยฺเยน เทวตานมฺปิ อหุเทว ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส, ปเคว มนุสฺสานํฯ อญฺเญสญฺจ อปททฺวิปทจตุปฺปทานํ มหาปถวิยา อุนฺทฺริยนกาโล วิย มหตี วิภิํสนกา อโหสิ, สกลสฺมิํ ชมฺพุทีปตเล มหนฺตํ โกลาหลํ อุทปาทิฯ ภควา ปน ตํ สทฺทํ ‘‘กิมี’’ติ อมญฺญมาโน นิจฺจโล นิสีทิ, ‘‘มา กสฺสจิ อิมินา อนฺตราโย โหตู’’ติ อธิฏฺฐาสิฯ

ยสฺมา ปน โส สทฺโท ‘‘อกฺกุล ปกฺกุล’’ อิติ อิมินา อากาเรน สตฺตานํ โสตปถํ อคมาสิ, ตสฺมา ตสฺส อนุกรณวเสน ‘‘อกฺกุโล ปกฺกุโล’’ติ, ยกฺขสฺส จ ตสฺสํ นิคฺโฆสนิจฺฉารณายํ อกฺกุลปกฺกุลกรณํ อตฺถีติ กตฺวา ‘‘อกฺกุลปกฺกุลิกํ อกาสี’’ติ สงฺคหํ อาโรปยิํสุฯ เกจิ ปน ‘‘อากุลพฺยากุล อิติ ปททฺวยสฺส ปริยายาภิธานวเสน อกฺกุโล พกฺกุโลติ อยํ สทฺโท วุตฺโต’’ติ วทนฺติ ยถา ‘‘เอกํ เอกก’’นฺติฯ ยสฺมา เอกวารํ ชาโต ปฐมุปฺปตฺติวเสเนว นิพฺพตฺตตฺตา อากุโลติ อาทิอตฺโถ อากาโร, ตสฺส จ กการาคมํ กตฺวา รสฺสตฺตํ กตนฺติฯ ทฺเว วาเร ปน ชาโต พกฺกุโล, กุลสทฺโท เจตฺถ ชาติปริยาโย โกลํโกโลติอาทีสุ วิยฯ วุตฺตอธิปฺปายานุวิธายี จ สทฺทปฺปโยโคติ ปฐเมน ปเทน ชลาพุชสีหพฺยคฺฆาทโย, ทุติเยน อณฺฑชอาสีวิสกณฺหสปฺปาทโย วุจฺจนฺติ, ตสฺมา สีหาทิโก วิย อาสีวิสาทิโก วิย จ ‘‘อหํ เต ชีวิตหารโก’’ติ อิมํ อตฺถํ ยกฺโข ปททฺวเยน ทสฺเสตีติ อญฺเญฯ อปเร ปน ‘‘อกฺขุโล ภกฺขุโล’’ติ ปาฬิํ วตฺวา ‘‘อกฺเขตุํ เขเปตุํ วินาเสตุํ อุลติ ปวตฺเตตีติ อกฺขุโล, ภกฺขิตุํ ขาทิตุํ อุลตีติ ภกฺขุโลฯ โก ปเนโส? ยกฺขรกฺขสปิสาจสีหพฺยคฺฆาทีสุ อญฺญตโร โย โกจิ มนุสฺสานํ อนตฺถาวโห’’ติ ตสฺส อตฺถํ วทนฺติฯ อิธาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อธิปฺปายโยชนา เวทิตพฺพาฯ

เอโส เต, สมณ, ปิสาโจติ ‘‘อมฺโภ, สมณ, ตว ปิสิตาสโน ปิสาโจ อุปฏฺฐิโต’’ติ มหนฺตํ เภรวรูปํ อภินิมฺมินิตฺวา ภควโต ปุรโต ฐตฺวา อตฺตานํ สนฺธาย ยกฺโข วทติฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตน ยกฺเขน กายวาจาหิ ปวตฺติยมานํ วิปฺปการํฯ เตน จ อตฺตโน อนภิภวนียสฺส เหตุภูตํ โลกธมฺเมสุ นิรุปกฺกิเลสตํ สพฺพาการโต วิทิตฺวาฯ ตายํ เวลายนฺติ ตสฺสํ วิปฺปการกรณเวลายํฯ อิมํ อุทานนฺติ ตํ วิปฺปการํ อคเณตฺวา อสฺส อคณนเหตุภูตํ ธมฺมานุภาวทีปกํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

ตตฺถ ยทา สเกสุ ธมฺเมสูติ ยสฺมิํ กาเล สกอตฺตภาวสงฺขาเตสุ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺธธมฺเมสุฯ ปารคูติ ปริญฺญาภิสมยปาริปูริวเสน ปารงฺคโต, ตโตเยว เตสํ เหตุภูเต สมุทเย, ตทปฺปวตฺติลกฺขเณ นิโรเธ, นิโรธคามินิยา ปฏิปทาย จ ปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยปาริปูริวเสน ปารคโตฯ โหติ พฺราหฺมโณติ เอวํ สพฺพโส พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ นาม โหติ, สพฺพโส สกอตฺตภาวาวโพธเนปิ จตุสจฺจาภิสมโย โหติฯ วุตฺตญฺเจตํ – ‘‘อิมสฺมิํเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสญฺญิมฺหิ สมนเก โลกญฺจ โลกสมุทยญฺจ ปญฺญเปมี’’ติอาทิ (สํ. นิ. 1.107; อ. นิ. 4.45)ฯ อถ วา สเกสุ ธมฺเมสูติ อตฺตโน ธมฺเมสุ, อตฺตโน ธมฺมา นาม อตฺถกามสฺส ปุคฺคลสฺส สีลาทิธมฺมาฯ สีลสมาธิปญฺญาวิมุตฺติอาทโย หิ โวทานธมฺมา เอกนฺตหิตสุขสมฺปาทเนน ปุริสสฺส อตฺตโน ธมฺมา นาม, น อนตฺถาวหา สํกิเลสธมฺมา วิย อสกธมฺมาฯ ปารคูติ เตสํ สีลาทีนํ ปาริปูริยา ปารํ ปริยนฺตํ คโตฯ

ตตฺถ สีลํ ตาว โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิธํฯ เตสุ โลกิยํ ปุพฺพภาคสีลํฯ ตํ สงฺเขปโต ปาติโมกฺขสํวราทิวเสน จตุพฺพิธํ, วิตฺถารโต ปน อเนกปฺปเภทํฯ โลกุตฺตรํ มคฺคผลวเสน ทุวิธํ, อตฺถโต สมฺมาวาจาสมฺมากมฺมนฺตสมฺมาอาชีวาฯ ยถา จ สีลํ, ตถา สมาธิปญฺญา จ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิธาฯ

ตตฺถ โลกิยสมาธิ สห อุปจาเรน อฏฺฐ สมาปตฺติโย, โลกุตฺตรสมาธิ มคฺคปริยาปนฺโน ฯ ปญฺญาปิ โลกิยา สุตมยา, จินฺตามยา, ภาวนามยา จ สาสวา, โลกุตฺตรา ปน มคฺคสมฺปยุตฺตา ผลสมฺปยุตฺตา จฯ วิมุตฺติ นาม ผลวิมุตฺติ นิพฺพานญฺจ, ตสฺมา สา โลกุตฺตราวฯ วิมุตฺติญาณทสฺสนํ โลกิยเมว, ตํ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณญาณภาวโตฯ เอวํ เอเตสํ สีลาทิธมฺมานํ อตฺตโน สนฺตาเน อรหตฺตผลาธิคเมน อนวเสสโต นิพฺพตฺตปาริปูริยา ปารํ ปริยนฺตํ คโตติ สเกสุ ธมฺเมสุ ปารคู

อถ วา โสตาปตฺติผลาธิคเมน สีลสฺมิํ ปารคูฯ โส หิ ‘‘สีเลสุ ปริปูรการี’’ติ วุตฺโต, โสตาปนฺนคฺคหเณเนว เจตฺถ สกทาคามีปิ คหิโต โหติฯ อนาคามิผลาธิคเมน สมาธิสฺมิํ ปารคูฯ โส หิ ‘‘สมาธิสฺมิํ ปริปูรการี’’ติ วุตฺโตฯ อรหตฺตผลาธิคเมน อิตเรสุ ตีสุ ปารคูฯ อรหา หิ ปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺติยา อคฺคภูตาย อกุปฺปาย เจโตวิมุตฺติยา อธิคตตฺตา ปจฺจเวกฺขณญาณสฺส จ ปริโยสานคมนโต ปญฺญาวิมุตฺติวิมุตฺติญาณทสฺสเนสุ ปารคู นาม โหติฯ เอวํ สพฺพถาปิ จตูสุ อริยสจฺเจสุ จตุมคฺควเสน ปริญฺญาทิโสฬสวิธาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา ยถาวุตฺเตสุ ตสฺมิํ ตสฺมิํ กาเล สเกสุ ธมฺเมสุ ปารคโตฯ

โหติ พฺราหฺมโณติ ตทา โส พาหิตปาปธมฺมตาย ปรมตฺถพฺราหฺมโณ โหติฯ อถ เอตํ ปิสาจญฺจ, ปกฺกุลญฺจาติวตฺตตีติ ตโต ยถาวุตฺตปารคมนโต อถ ปจฺฉา, อชกลาปก, เอตํ ตยา ทสฺสิตํ ปิสิตาสนตฺถมาคตํ ปิสาจํ ภยชนนตฺถํ สมุฏฺฐาปิตํ อกฺกุลปกฺกุลิกญฺจ อติวตฺตติ, อติกฺกมติ, อภิภวติ, ตํ น ภายตีติ อตฺโถฯ

อยมฺปิ คาถา อรหตฺตเมว อุลฺลปิตฺวา กถิตาฯ อถ อชกลาปโก อตฺตนา กเตน ตถารูเปนปิ ปฏิภยรูเปน วิภิํสเนน อกมฺปนียสฺส ภควโต ตํ ตาทิภาวํ ทิสฺวา ‘‘อโห อจฺฉริยมนุสฺโสวตาย’’นฺติ ปสนฺนมานโส โปถุชฺชนิกาย สทฺธาย อตฺตนิ นิวิฏฺฐภาวํ วิภาเวนฺโต สตฺถุ สมฺมุขา อุปาสกตฺตํ ปเวเทสิฯ

สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. สงฺคามชิสุตฺตวณฺณนา

[8] อฏฺฐเม สงฺคามชีติ เอวํนาโมฯ อยญฺหิ อายสฺมา สาวตฺถิยํ อญฺญตรสฺส มหาวิภวสฺส เสฏฺฐิโน ปุตฺโต, วยปฺปตฺตกาเล มาตาปิตูหิ ปติรูเปน ทาเรน นิโยเชตฺวา สาปเตยฺยํ นิยฺยาเตตฺวา ฆรพนฺธเนน พทฺโธ โหติฯ โส เอกทิวสํ สาวตฺถิวาสิโน อุปาสเก ปุพฺพณฺหสมยํ ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา สายนฺหสมเย สุทฺธวตฺเถ สุทฺธุตฺตราสงฺเค คนฺธมาลาทิหตฺเถ ธมฺมสฺสวนตฺถํ เชตวนาภิมุเข คจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘กตฺถ ตุมฺเห คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธมฺมสฺสวนตฺถํ เชตวเน สตฺถุ สนฺติก’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ อหมฺปิ คมิสฺสามี’’ติ เตหิ สทฺธิํ เชตวนํ อคมาสิฯ เตน จ สมเยน ภควา กญฺจนคุหายํ สีหนาทํ นทนฺโต เกสรสีโห วิย สทฺธมฺมมณฺฑเป ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา จตุปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสติฯ

อถ โข เต อุปาสกา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ, สงฺคามชิปิ กุลปุตฺโต ตสฺสา ปริสาย ปริยนฺเต ธมฺมํ สุณนฺโต นิสีทิฯ ภควา อนุปุพฺพิกถํ กเถตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน อเนเกสํ ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิฯ สงฺคามชิปิ กุลปุตฺโต โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ปริสาย วุฏฺฐิตาย ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิ ‘‘ปพฺพาเชถ มํ ภควา’’ติฯ ‘‘อนุญฺญาโตสิ ปน ตฺวํ มาตาปิตูหิ ปพฺพชฺชายา’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, อนุญฺญาโต’’ติฯ ‘‘น โข, สงฺคามชิ, ตถาคตา มาตาปิตูหิ อนนุญฺญาตํ ปุตฺตํ ปพฺพาเชนฺตี’’ติฯ ‘‘โสหํ, ภนฺเต, ตถา กริสฺสามิ, ยถา มํ มาตาปิตโร ปพฺพชิตุํ อนุชานนฺตี’’ติฯ โส ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อมฺมตาตา, อนุชานาถ มํ ปพฺพชิตุ’’นฺติ อาหฯ ตโต ปรํ รฏฺฐปาลสุตฺเต (ม. นิ. 2.293 อาทโย) อาคตนเยน เวทิตพฺพํฯ

อถ โส ‘‘ปพฺพชิตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ปฏิญฺญํ ทตฺวา อนุญฺญาโต มาตาปิตูหิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ