เมนู

2. ทุติยโพธิสุตฺตวณฺณนา

[2] ทุติเย ปฏิโลมนฺติ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต อวิชฺชาทิโกเยว ปจฺจยากาโร อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌมาโน อตฺตโน กตฺตพฺพกิจฺจสฺส อกรณโต ปฏิโลโมติ วุจฺจติฯ ปวตฺติยา วา วิโลมนโต ปฏิโลโม, อนฺตโต ปน มชฺฌโต วา ปฏฺฐาย อาทิํ ปาเปตฺวา อวุตฺตตฺตา อิโต อญฺเญนตฺเถเนตฺถ ปฏิโลมตา น ยุชฺชติฯ ปฏิโลมนฺติ จ ‘‘วิสมํ จนฺทสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ วิย ภาวนปุํสกนิทฺเทโสฯ อิมสฺมิํ อสติ อิทํ น โหตีติ อิมสฺมิํ อวิชฺชาทิเก ปจฺจเย อสติ มคฺเคน ปหีเน อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ น โหติ นปฺปวตฺตติฯ อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตีติ อิมสฺส อวิชฺชาทิกสฺส ปจฺจยสฺส นิโรธา มคฺเคน อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อาปาทิตตฺตา อิทํ สงฺขาราทิกํ ผลํ นิรุชฺฌติ, นปฺปวตฺตตีติ อตฺโถฯ อิธาปิ ยถา ‘‘อิมสฺมิํ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ เอตฺถ ‘‘อิมสฺมิํ สติเยว, นาสติ, อิมสฺส อุปฺปาทา เอว, น นิโรธา’’ติ อนฺโตคธนิยมตา ทสฺสิตาฯ เอวํ อิมสฺมิํ อสติเยว, น สติ, อิมสฺส นิโรธา เอว, น อุปฺปาทาติ อนฺโตคธนิยมตาลกฺขณา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพํฯ เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปฐมโพธิสุตฺตวณฺณนาย วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํฯ

เอวํ ยถา ภควา ปฏิโลมปฏิจฺจสมุปฺปาทํ มนสิ อกาสิ, ตํ สงฺเขเปน ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถาเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ อวิชฺชานิโรธาติ อริยมคฺเคน อวิชฺชาย อนวเสสนิโรธา, อนุสยปฺปหานวเสน อคฺคมคฺเคน อวิชฺชาย อจฺจนฺตสมุคฺฆาฏโตติ อตฺโถฯ ยทิปิ เหฏฺฐิมมคฺเคหิ ปหียมานา อวิชฺชา อจฺจนฺตสมุคฺฆาฏวเสเนว ปหียติ, ตถาปิ น อนวเสสโต ปหียติฯ อปายคามินิยา หิ อวิชฺชา ปฐมมคฺเคน ปหียติฯ ตถา สกิเทว อิมสฺมิํ โลเก สพฺพตฺถ จ อนริยภูมิยํ อุปปตฺติปจฺจยภูตา อวิชฺชา ยถากฺกมํ ทุติยตติยมคฺเคหิ ปหียติ, น อิตราติฯ อรหตฺตมคฺเคเนว หิ สา อนวเสสํ ปหียตีติฯ สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติฯ เอวํ นิรุทฺธานํ ปน สงฺขารานํ นิโรธา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณาทีนญฺจ นิโรธา นามรูปาทีนิ นิรุทฺธานิ เอว โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ’’ติอาทิํ วตฺวา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

อปิเจตฺถ กิญฺจาปิ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ’’ติ เอตฺตาวตาปิ สกลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อนวเสสโต นิโรโธ วุตฺโต โหติ, ตถาปิ ยถา อนุโลเม ยสฺส ยสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส อตฺถิตาย โย โย ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโม น นิรุชฺฌติ ปวตฺตติ เอวาติ อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา…เป.… สมุทโย โหตี’’ติ วุตฺตํฯ เอวํ ตปฺปฏิปกฺขโต ตสฺส ตสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส อภาเว โส โส ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโม นิรุชฺฌติ นปฺปวตฺตตีติ ทสฺสนตฺถํ อิธ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ…เป.… ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน อนุโลเม วิย กาลตฺตยปริยาปนฺนสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรธทสฺสนตฺถํฯ อนาคตสฺเสว หิ อริยมคฺคภาวนาย อสติ อุปฺปชฺชนารหสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อริยมคฺคภาวนาย นิโรโธ อิจฺฉิโตติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ยฺวายํ ‘‘อวิชฺชานิโรธาทิวเสน สงฺขาราทิกสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ วุตฺโต, สพฺพากาเรน เอตมตฺถํ วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิมสฺมิํ อตฺเถ วิทิเต ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธ’’ติ เอวํ ปกาสิตสฺส อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยานํ ขยสฺส อวโพธานุภาวทีปกํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถฯ

ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺมา อวิชฺชาทีนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปาทนิโรธสงฺขาตํ ขยํ อเวทิ อญฺญาสิ ปฏิวิชฺฌิ, ตสฺมา เอตสฺส วุตฺตนเยน อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส วุตฺตปฺปการา โพธิปกฺขิยธมฺมา จตุสจฺจธมฺมา วา ปาตุภวนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ ปกาเสนฺติ วาฯ อถ ยา ปจฺจยนิโรธสฺส สมฺมา อวิทิตตฺตา อุปฺปชฺเชยฺยุํ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปเภทา กงฺขา, ตา สพฺพาปิ วปยนฺติ นิรุชฺฌนฺตีติฯ เสสํ เหฏฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

ทุติยโพธิสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ตติยโพธิสุตฺตวณฺณนา

[3] ตติเย อนุโลมปฏิโลมนฺติ อนุโลมญฺจ ปฏิโลมญฺจ, ยถาวุตฺตอนุโลมวเสน เจว ปฏิโลมวเสน จาติ อตฺโถฯ นนุ จ ปุพฺเพปิ อนุโลมวเสน ปฏิโลมวเสน จ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท มนสิการปฺปวตฺติ สุตฺตทฺวเย วุตฺตา, อิธ กสฺมา ปุนปิ ตทุภยวเสน มนสิการปฺปวตฺติ วุจฺจตีติ? ตทุภยวเสน ตติยวารํ ตตฺถ มนสิการสฺส ปวตฺติตตฺตาฯ กถํ ปน ตทุภยวเสน มนสิกาโร ปวตฺติโต? น หิ สกฺกา อปุพฺพํ อจริมํ อนุโลมปฏิโลมํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส มนสิการํ ปวตฺเตตุนฺติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺฐพฺพํ ‘‘ตทุภยํ เอกชฺฌํ มนสากาสี’’ติ, อถ โข วาเรนฯ ภควา หิ ปฐมํ อนุโลมวเสน ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ มนสิ กริตฺวา ตทนุรูปํ ปฐมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ ทุติยมฺปิ ปฏิโลมวเสน ตํ มนสิ กริตฺวา ตทนุรูปเมว อุทานํ อุทาเนสิฯ ตติยวาเร ปน กาเลน อนุโลมํ กาเลน ปฏิโลมํ มนสิกรณวเสน อนุโลมปฏิโลมํ มนสิ อกาสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อนุโลมปฏิโลมนฺติ อนุโลมญฺจ ปฏิโลมญฺจ, ยถาวุตฺตอนุโลมวเสน เจว ปฏิโลมวเสน จา’’ติฯ อิมินา มนสิการสฺส ปคุณพลวภาโว จ วสีภาโว จ ปกาสิโต โหติฯ เอตฺถ จ ‘‘อนุโลมํ มนสิ กริสฺสามิ, ปฏิโลมํ มนสิ กริสฺสามิ, อนุโลมปฏิโลมํ มนสิ กริสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺตานํ ปุพฺพาโภคานํ วเสน เนสํ วิภาโค เวทิตพฺโพฯ

ตตฺถ อวิชฺชาย ตฺเววาติ อวิชฺชาย ตุ เอวฯ อเสสวิราคนิโรธาติ วิราคสงฺขาเตน มคฺเคน อเสสนิโรธา, อคฺคมคฺเคน อนวเสสอนุปฺปาทปฺปหานาติ อตฺโถฯ สงฺขารนิโรโธติ สพฺเพสํ สงฺขารานํ อนวเสสํ อนุปฺปาทนิโรโธฯ เหฏฺฐิเมน หิ มคฺคตฺตเยน เกจิ สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติ, เกจิ น นิรุชฺฌนฺติ อวิชฺชาย สาวเสสนิโรธาฯ อคฺคมคฺเคน ปนสฺสา อนวเสสนิโรธา น เกจิ สงฺขารา น นิรุชฺฌนฺตีติฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ยฺวายํ อวิชฺชาทิวเสน สงฺขาราทิกสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย นิโรโธ จ อวิชฺชาทีนํ สมุทยา นิโรธา จ โหตีติ วุตฺโต, สพฺพากาเรน เอตมตฺถํ วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานํ อุทาเนสีติ อิทํ เยน มคฺเคน โย ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทยนิโรธสงฺขาโต อตฺโถ กิจฺจวเสน อารมฺมณกิริยาย จ วิทิโต, ตสฺส อริยมคฺคสฺส อานุภาวทีปกํ วุตฺตปฺปการํ อุทานํ อุทาเนสีติ อตฺโถฯ