เมนู

8. กจฺจานสุตฺตวณฺณนา

[68] อฏฺฐเม อชฺฌตฺตนฺติ เอตฺถ อยํ อชฺฌตฺตสทฺโท ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. 3.304) อชฺฌตฺตชฺฌตฺเต อาคโตฯ ‘‘อชฺฌตฺตา ธมฺมา (ธ. ส. ติกมาติกา 20), อชฺฌตฺตํ วา กาเย กายานุปสฺสี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. 2.373-374) นิยกชฺฌตฺเตฯ ‘‘สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อชฺฌตฺตํ สุญฺญตํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. 3.187) วิสยชฺฌตฺเต, อิสฺสริยฏฺฐาเนติ อตฺโถฯ ผลสมาปตฺติ หิ พุทฺธานํ อิสฺสริยฏฺฐานํ นามฯ ‘‘เตนานนฺท, ภิกฺขุนา ตสฺมิํเยว ปุริมสฺมิํ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺฐเปตพฺพ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. 3.188) โคจรชฺฌตฺเตฯ อิธาปิ โคจรชฺฌตฺเตเยว ทฏฺฐพฺโพฯ ตสฺมา อชฺฌตฺตนฺติ โคจรชฺฌตฺตภูเต กมฺมฏฺฐานารมฺมเณติ วุตฺตํ โหติฯ ปริมุขนฺติ อภิมุขํฯ สูปฏฺฐิตายาติ สุฏฺฐุ อุปฏฺฐิตาย กายคตาย สติยาฯ สติสีเสน เจตฺถ ฌานํ วุตฺตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘อชฺฌตฺตํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺฐานวเสน ปฏิลทฺธํ อุฬารํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา’’ติฯ

อยญฺหิ เถโร ภควติ สาวตฺถิยํ วิหรนฺเต เอกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต วิหารํ ปวิสิตฺวา ภควโต วตฺตํ ทสฺเสตฺวา ทิวาฏฺฐาเน ทิวาวิหารํ นิสินฺโน นานาสมาปตฺตีหิ ทิวสภาคํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมยํ วิหารมชฺฌํ โอตริตฺวา ภควติ คนฺธกุฏิยํ นิสินฺเน ‘‘อกาโล ตาว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุ’’นฺติ คนฺธกุฏิยา อวิทูเร, อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล กาลปริจฺเฉทํ กตฺวา ยถาวุตฺตํ สมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิฯ สตฺถา ตํ ตถานิสินฺนํ คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนเยว ปสฺสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหากจฺจาโน…เป.… สูปฏฺฐิตายา’’ติฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ อายสฺมโต มหากจฺจานตฺเถรสฺส สติปฏฺฐานภาวนาวเสน อธิคตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา สมาปชฺชนํ สพฺพาการโต วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ

ตตฺถ ยสฺส สิยา สพฺพทา สติ, สตตํ กายคตา อุปฏฺฐิตาติ ยสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส เอกทิวสํ ฉ โกฏฺฐาเส กตฺวา สพฺพสฺมิมฺปิ กาเล นามรูปเภเทน ทุวิเธปิ กาเย คตา กายารมฺมณา ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อนิจฺจาทิสมฺมสนวเสน สตตํ นิรนฺตรํ สาตจฺจาภิโยควเสน สติ อุปฏฺฐิตา สิยาฯ

อยํ กิรายสฺมา ปฐมํ กายคตาสติกมฺมฏฺฐานวเสน ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตํ ปาทกํ กตฺวา กายานุปสฺสนาสติปฏฺฐานมุเขน วิปสฺสนํ ปฏฺฐเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโตฯ โส อปรภาเคปิ เยภุยฺเยน ตเมว ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺฐาย ตเถว จ วิปสฺสิตฺวา ผลสมาปตฺติํ สมาปชฺชติฯ สฺวายํ เยน วิธินา อรหตฺตํ ปตฺโต, ตํ วิธิํ ทสฺเสนฺโต สตฺถา ‘‘ยสฺส สิยา สพฺพทา สติ, สตตํ กายคตา อุปฏฺฐิตา’’ติ วตฺวา ตสฺสา อุปฏฺฐานาการํ วิภาเวตุํ ‘‘โน จสฺส โน จ เม สิยา, น ภวิสฺสติ น จ เม ภวิสฺสตี’’ติ อาหฯ

ตสฺสตฺโถ ทฺวิธา เวทิตพฺโพ สมฺมสนโต ปุพฺพภาควเสน สมฺมสนกาลวเสน จาติฯ เตสุ ปุพฺพภาควเสน ตาว โน จสฺส โน จ เม สิยาติ อตีตกาเล มม กิเลสกมฺมํ โน จสฺส น ภเวยฺย เจ, อิมสฺมิํ ปจฺจุปฺปนฺนกาเล อยํ อตฺตภาโว โน จ เม สิยา น เม อุปฺปชฺเชยฺยฯ ยสฺมา ปน เม อตีเต กมฺมกิเลสา อเหสุํ, ตสฺมา ตํนิมิตฺโต เอตรหิ อยํ เม อตฺตภาโว ปวตฺตติฯ น ภวิสฺสติ น จ เม ภวิสฺสตีติ อิมสฺมิํ อตฺตภาเว ปฏิปกฺขาธิคเมน กิเลสกมฺมํ น ภวิสฺสติ น อุปฺปชฺชิสฺสติ เม, อายติํ วิปากวฏฺฏํ น จ เม ภวิสฺสติ น เม ปวตฺติสฺสตีติฯ เอวํ กาลตฺตเย กมฺมกิเลสเหตุกํ อิทํ มยฺหํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ขนฺธปญฺจกํ , น อิสฺสราทิเหตุกํ, ยถา จ มยฺหํ, เอวํ สพฺพสตฺตานนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ ปกาสิตํ โหติฯ

สมฺมสนกาลวเสน ปน โน จสฺส โน จ เม สิยาติ ยสฺมา อิทํ ขนฺธปญฺจกํ หุตฺวา อภาวฏฺเฐน อนิจฺจํ, อภิณฺหปฏิปีฬนฏฺเฐน ทุกฺขํ, อวสวตฺตนฏฺเฐน อนตฺตา, เอวํ ยทิ อยํ อตฺตา นาม นาปิ ขนฺธปญฺจกวินิมุตฺโต โกจิ โน จสฺส โน จ สิยา น ภเวยฺย, เอวํ, ภนฺเต, โน จ เม สิยา มม สนฺตกํ นาม กิญฺจิ น ภเวยฺยฯ น ภวิสฺสตีติ อตฺตนิ อตฺตนิเย ภวิตพฺพํ ยถา จิทํ นามรูปํ เอตรหิ จ อตีเต จ อตฺตตฺตนิยํ สุญฺญํ, เอวํ น ภวิสฺสติ น เม ภวิสฺสติ, อนาคเตปิ ขนฺธวินิมุตฺโต อตฺตา นาม น โกจิ น เม ภวิสฺสติ น ปวตฺติสฺสติ, ตโต เอว กิญฺจิ ปลิโพธฏฺฐานิยํ น เม ภวิสฺสติ อายติมฺปิ อตฺตนิยํ นาม น เม กิญฺจิ ภวิสฺสตีติฯ อิมินา ตีสุ กาเลสุ ‘‘อห’’นฺติ คเหตพฺพสฺส อภาวโต ‘‘มม’’นฺติ คเหตพฺพสฺส จ อภาวํ ทสฺเสติฯ เตน จตุกฺโกฏิกา สุญฺญตา ปกาสิตา โหติฯ

อนุปุพฺพวิหาริ ตตฺถ โสติ เอวํ ตีสุปิ กาเลสุ อตฺตตฺตนิยํ สุญฺญตํ ตตฺถ สงฺขารคเต อนุปสฺสนฺโต อนุกฺกเมน อุทยพฺพยญาณาทิวิปสฺสนาญาเณสุ อุปฺปชฺชมาเนสุ อนุปุพฺพวิปสฺสนาวิหารวเสน อนุปุพฺพวิหารี สมาโนฯ

กาเลเนว ตเร วิสตฺติกนฺติ โส เอวํ วิปสฺสนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ฐิโต โยคาวจโร อินฺทฺริยานํ ปริปากคตกาเลน วุฏฺฐานคามินิยา วิปสฺสนาย มคฺเคน ฆฏิตกาเลน อริยมคฺคสฺส อุปฺปตฺติกาเลน สกลสฺส ภวตฺตยสฺส สํตนนโต วิสตฺติกาสงฺขาตํ ตณฺหํ ตเรยฺย, วิตริตฺวา ตสฺสา ปรตีเร ติฏฺเฐยฺยาติ อธิปฺปาโยฯ

อิติ ภควา อญฺญาปเทเสน อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส อรหตฺตุปฺปตฺติทีปนํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

อฏฺฐมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. อุทปานสุตฺตวณฺณนา

[69] นวเม มลฺเลสูติ มลฺลา นาม ชานปทิโน ราชกุมารา, เตสํ นิวาโส เอโกปิ ชนปโท รุฬฺหีวเสน ‘‘มลฺลา’’ติ วุจฺจติ, เตสุ มลฺเลสุ, ยํ โลเก ‘‘มลฺโล’’ติ วุจฺจติฯ เกจิ ปน ‘‘มาเลสู’’ติ ปฐนฺติฯ จาริยํ จรมาโนติ อตุริตจาริกาวเสน มหามณฺฑลชนปทจาริกํ จรมาโนฯ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆนาติ อปริจฺเฉทคุเณน มหนฺเตน สมณคเณนฯ ตทา หิ ภควโต มหาภิกฺขุปริวาโร อโหสิฯ ถูณํ นาม มลฺลานํ พฺราหฺมณคาโมติ ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย มชฺฌิมเทสสฺส อวธิฏฺฐาเน มลฺลเทเส ถูณนามโก พฺราหฺมณพหุลตาย พฺราหฺมณคาโมฯ ตทวสรีติ ตํ อวสริ, ถูณคามมคฺคํ ปาปุณีติ อตฺโถฯ อสฺโสสุนฺติ สุณิํสุ, โสตทฺวารสมฺปตฺตวจนนิคฺโฆสานุสาเรน ชานิํสูติ อตฺโถฯ โขติ ปทปูรเณ, อวธารณตฺเถ วา นิปาโตฯ ตตฺถ อวธารณตฺเถน อสฺโสสุํเยว, น เตสํ สวนนฺตราโย อโหสีติ วุตฺตํ โหติฯ ปทปูรเณน ปทพฺยญฺชนสิลิฏฺฐตฺตมตฺตเมวฯ ถูเณยฺยกาติ ถูณคามวาสิโนฯ พฺราหฺมณคหปติกาติ เอตฺถ พฺรหฺมํ อณนฺตีติ พฺราหฺมณา, มนฺเต สชฺฌายนฺตีติ อตฺโถฯ อิทเมว หิ ชาติพฺราหฺมณานํ นิพฺพจนํ, อริยา ปน พาหิตปาปตฺตา ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติฯ คหปติกาติ ขตฺติยพฺราหฺมเณ วชฺเชตฺวา เย เกจิ อคารํ อชฺฌาวสนฺตา วุจฺจนฺติ, วิเสสโต เวสฺสาฯ พฺราหฺมณา จ คหปติกา จ พฺราหฺมณคหปติกาฯ

อิทานิ ยมตฺถํ เต อสฺโสสุํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สมิตปาปตฺตา ‘‘สมโณ’’ติ เวทิตพฺโพฯ