เมนู

โส หิ วิปสฺสนาวเสน อชฺฌตฺตรโต, สมถวเสน สมาหิโตติ เอวํ ปุพฺพภาคโต ปฏฺฐาย สมถวิปสฺสนาพเลน กวจํ วิย อตฺตภาวํ ปริโยนนฺธิตฺวา ฐิตํ, อตฺตนิ สมฺภวตฺตา ‘‘อตฺตสมฺภว’’นฺติ ลทฺธนามํ สพฺพํ กิเลสชาลํ อภินฺทิ, กิเลสาภาเวเนว กมฺมํ อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อวสฺสฏฺฐํ นาม โหตีติ เอวํ กิเลสปฺปหาเนน กมฺมํ ปชหิฯ อิติ โพธิมูเลเยว อวสฺสฏฺฐภวสงฺขาโร ภควา เวขมิสฺสเกน วิย ชรสกฏํ สมาปตฺติเวขมิสฺสเกน อตฺตภาวํ ยาเปนฺโตปิ ‘‘อิโต เตมาสโต อุทฺธํ สมาปตฺติเวขมสฺส น ทสฺสามี’’ติ จิตฺตุปฺปาทเนน อายุสงฺขารํ โอสฺสชีติฯ

ปฐมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. สตฺตชฏิลสุตฺตวณฺณนา

[52] ทุติเย พหิทฺวารโกฏฺฐเกติ ปาสาททฺวารโกฏฺฐกสฺส พหิ, น วิหารทฺวารโกฏฺฐกสฺสฯ โส กิร ปาสาโท โลหปาสาโท วิย สมนฺตา จตุทฺวารโกฏฺฐกปริวุโต ปาการปริกฺขิตฺโตฯ เตสุ ปาจีนทฺวารโกฏฺฐกสฺส พหิ ปาสาทจฺฉายายํ ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต ปญฺญตฺตวรพุทฺธาสเน นิสินฺโน โหติฯ ชฏิลาติ ชฏาวนฺโต ตาปสเวสธาริโนฯ นิคณฺฐาติ เสตปฏนิคณฺฐรูปธาริโนฯ เอกสาฏกาติ เอกสาฏกนิคณฺฐา วิย เอกํ ปิโลติกขณฺฑํ หตฺเถ พนฺธิตฺวา เตนาปิ สรีรสฺส ปุริมภาคํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา วิจรณกาฯ ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมาติ ปรูฬฺหกจฺฉโลมา ปรูฬฺหนขา ปรูฬฺหอวเสสโลมา จ, กจฺฉาทีสุ ทีฆโลมา ทีฆนขา จาติ อตฺโถฯ ขาริวิวิธมาทายาติ วิวิธํ ขาราทินานปฺปการํ ปพฺพชิตปริกฺขารภณฺฑิกํ คเหตฺวาฯ อวิทูเร อติกฺกมนฺตีติ วิหารสฺส อวิทูรมคฺเคน นครํ ปวิสนฺติฯ

ราชาหํ, ภนฺเต, ปเสนทิ โกสโลติ อหํ, ภนฺเต, ราชา ปเสนทิ โกสโล, มยฺหํ นามํ ตุมฺเห ชานาถาติฯ กสฺมา ปน ราชา โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส สนฺติเก นิสินฺโน เอวรูปานํ นคฺคนิสฺสิรีกานํ อญฺชลิํ ปคฺคณฺหาตีติ? สงฺคณฺหนตฺถายฯ

เอวญฺหิสฺส อโหสิ ‘‘สจาหํ เอตฺตกมฺปิ เอเตสํ น กริสฺสามิ, มยํ ปุตฺตทารํ ปหาย เอตสฺสตฺถาย ทุพฺโภชนทุกฺขเสยฺยาทีนิ อนุโภม, อยํ อมฺหากํ นิปจฺจการมตฺตมฺปิ น กโรติ ฯ ตสฺมิญฺหิ กเต อมฺเห ‘โอจรกา’ติ ชโน อคฺคเหตฺวา ‘ปพฺพชิตา’อิจฺเจว สญฺชานิสฺสติ, กิํ อิมสฺส ภูตตฺถกถเนนาติ อตฺตนา ทิฏฺฐํ สุตํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา น กเถยฺยุํ, เอวํ กเต ปน อนิคูหิตฺวา กเถสฺสนฺตี’’ติฯ อปิจ สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถมฺปิ เอวมกาสีติฯ ราชา กิร ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺโตปิ กติปยกาลํ สมฺมาสมฺโพธิํ น สทฺทหิฯ เตนสฺส เอวํ อโหสิ ‘‘ยทิ ภควา สพฺพํ ชานาติ, มยา อิเมสํ นิปจฺจการํ กตฺวา ‘อิเม อรหนฺโต’ติ วุตฺเต นานุชาเนยฺย, อถ มํ อนุวตฺตนฺโต อนุชาเนยฺย, กุโต ตสฺส สพฺพญฺญุตา’’ติฯ เอวํ โส สตฺถุ อชฺฌาสยชานนตฺถํ ตถา อกาสิฯ ภควา ปน ‘‘อุชุกเมว ‘น อิเม สมณา โอจรกา’ติ วุตฺเต ยทิปิ ราชา สทฺทหติ, มหาชโน ปน ตมตฺถํ อชานนฺโต น สทฺทเหยฺย, สมโณ โคตโม ‘ราชา อตฺตโน กถํ สุณาตี’ติ ยํ กิญฺจิ มุขารุฬฺหํ กเถตี’ติ วเทยฺย, ตทสฺส ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺย, อญฺโญ จ คุฬฺหกมฺมํ วิวฏํ กตํ ภเวยฺย, สยเมว ราชา เตสํ โอจรกภาวํ กเถสฺสตี’’ติ ญตฺวา ‘‘ทุชฺชานํ โข เอต’’นฺติอาทิมาหฯ

ตตฺถ กามโภคินาติ อิมินา ปน ราคาภิภวํ, อุภเยนาปิ วิกฺขิตฺตจิตฺตตํ ทสฺเสติฯ ปุตฺตสมฺพาธสยนนฺติ ปุตฺเตหิ สมฺพาธสยนํ ฯ เอตฺถ จ ปุตฺตสีเสน ทารปริคฺคหํ, ปุตฺตทาเรสุ อุปฺปิลาวิเตน เตสํ ฆราวาสาทิเหตุ โสกาภิภเวน จิตฺตสฺส สํกิลิฏฺฐตํ ทสฺเสติฯ กาสิกจนฺทนนฺติ สณฺหจนฺทนํ, กาสิกวตฺถญฺจ จนฺทนญฺจาติ วา อตฺโถฯ มาลาคนฺธวิเลปนนฺติ วณฺณคนฺธตฺถาย มาลา, สุคนฺธภาวตฺถาย คนฺธํ, ฉวิราคกรณตฺถาย วิเลปนํ ธาเรนฺเตนฯ ชาตรูปรชตนฺติ สุวณฺณญฺเจว อวสิฏฺฐธนญฺจฯ สาทิยนฺเตนาติ ปฏิคฺคณฺหนฺเตนฯ สพฺเพนปิ กาเมสุ อภิคิทฺธภาวเมว ปกาเสติฯ

สํวาเสนาติ สหวาเสนฯ สีลํ เวทิตพฺพนฺติ ‘‘อยํ เปสโล วา ทุสฺสีโล วา’’ติ สํวสนฺเตน เอกสฺมิํ ฐาเน สห วสนฺเตน ชานิตพฺโพฯ ตญฺจ โข ทีเฆน อทฺธุนา น อิตฺตรนฺติ ตญฺจ สีลํ ทีเฆน กาเลน เวทิตพฺพํ, น อิตฺตเรนฯ กติปยทิวเส หิ สญฺญตากาโร สํวุตินฺทฺริยากาโร จ หุตฺวา สกฺกา ทสฺเสตุํฯ

มนสิ กโรตา โน อมนสิ กโรตาติ ตมฺปิ ‘‘สีลมสฺส ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ มนสิ กโรนฺเตน ปจฺจเวกฺขนฺเตน สกฺกา ชานิตุํ, น อิตเรนฯ ปญฺญวตาติ ตมฺปิ สปฺปญฺเญเนว ปณฺฑิเตนฯ พาโล หิ มนสิ กโรนฺโตปิ ชานิตุํ น สกฺโกติฯ สํโวหาเรนาติ กถเนนฯ

‘‘โย หิ โกจิ มนุสฺเสสุ, โวหารํ อุปชีวติ;

เอวํ วาเสฏฺฐ ชานาหิ, วาณิโช โส น พฺราหฺมโณ’’ติฯ (สุ. นิ. 619) –

เอตฺถ หิ วาณิชฺชํ โวหาโร นามฯ ‘‘จตฺตาโร อริยโวหารา’’ติ (ที. นิ. 3.313) เอตฺถ เจตนาฯ ‘‘สงฺขา สมญฺญา ปญฺญตฺติ โวหาโร’’ติ (ธ. ส. 1313-1315) เอตฺถ ปญฺญตฺติฯ ‘‘โวหารมตฺเตน โส โวหเรยฺยา’’ติ (สํ. นิ. 1.25) เอตฺถ กถา โวหาโรฯ อิธาปิ โส เอว อธิปฺเปโตฯ เอกจฺจสฺส หิ สมฺมุขากถา ปรมฺมุขากถาย น สเมติ, ปรมฺมุขากถา สมฺมุขากถาย, ตถา ปุริมกถา ปจฺฉิมกถาย, ปจฺฉิมกถา จ ปุริมกถายฯ โส กเถนฺโตเยว สกฺกา ชานิตุํ ‘‘อสุจิ เอโส ปุคฺคโล’’ติฯ สุจิสีลสฺส ปน ปุริมํ ปจฺฉิเมน, ปจฺฉิมญฺจ ปุริเมน, สมฺมุขา กถิตญฺจ ปรมฺมุขา กถิเตน, ปรมฺมุขา กถิตญฺจ สมฺมุขา กถิเตน สเมติ, ตสฺมา กเถนฺเตน สกฺกา สุจิภาโว ชานิตุนฺติ ปกาเสนฺโต อาห – ‘‘สํโวหาเรน โสเจยฺยํ เวทิตพฺพ’’นฺติ

ถาโมติ ญาณถาโมฯ ยสฺส หิ ญาณถาโม นตฺถิ, โส อุปฺปนฺเนสุ อุปทฺทเวสุ คเหตพฺพคหณํ กตฺตพฺพกรณํ อปสฺสนฺโต อทฺวาริกํ ฆรํ ปวิฏฺโฐ วิย จรติฯ เตนาห – ‘‘อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติฯ สากจฺฉายาติ สหกถายฯ ทุปฺปญฺญสฺส หิ กถา อุทเก เคณฺฑุ วิย อุปฺลวติ, ปญฺญวโต กเถนฺตสฺส ปฏิภานํ อนนฺตํ โหติฯ อุทกวิปฺผนฺทเนเนว หิ มจฺโฉ ขุทฺทโก มหนฺโต วาติ ปญฺญายติ

อิติ ภควา รญฺโญ อุชุกเมว เต ‘‘อิเม นามา’’ติ อวตฺวา อรหนฺตานํ อนรหนฺตานญฺจ ชานนูปายํ ปกาเสสิฯ ราชา ตํ สุตฺวา ภควโต สพฺพญฺญุตาย เทสนาวิลาเสน จ อภิปฺปสนฺโน ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต’’ติอาทินา อตฺตโน ปสาทํ ปกาเสตฺวา อิทานิ เต ยาถาวโต ภควโต อาโรเจนฺโต ‘‘เอเต, ภนฺเต, มม ปุริสา จรา’’ติอาทิมาหฯ

ตตฺถ จราติ อปพฺพชิตา เอว ปพฺพชิตรูเปน รฏฺฐปิณฺฑํ ภุญฺชนฺตา ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตตฺตาฯ โอจรกาติ เหฏฺฐา จรกาฯ จรา หิ ปพฺพตมตฺถเกน จรนฺตาปิ เหฏฺฐา จรกาว นิหีนกมฺมตฺตาฯ อถ วา โอจรกาติ จรปุริสาฯ โอจริตฺวาติ อวจริตฺวา วีมํสิตฺวา, ตสฺมิํ ตสฺมิํ เทเส ตํ ตํ ปวตฺติํ ญตฺวาติ อตฺโถฯ โอสาริสฺสามีติ ปฏิปชฺชิสฺสามิ, กริสฺสามีติ อตฺโถฯ รโชชลฺลนฺติ รชญฺจ มลญฺจฯ ปวาเหตฺวาติ สุฏฺฐุ วิกฺขาลนวเสน อปเนตฺวาฯ กปฺปิตเกสมสฺสูติ อลงฺการสตฺเถ วุตฺตวิธินา กปฺปเกหิ ฉินฺนเกสมสฺสูฯ กามคุเณหีติ กามโกฏฺฐาเสหิ, กามพนฺธเนหิ วา สมปฺปิตาติ สุฏฺฐุ อปฺปิตา อลฺลีนาฯ สมงฺคิภูตาติ สหภูตา ปริจาเรสฺสนฺตีติ อินฺทฺริยานิ สมนฺตโต จาเรสฺสนฺติ กีฬาเปสฺสนฺติ วาฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ เอตํ เตสํ ราชปุริสานํ อตฺตโน อุทรสฺส การณา ปพฺพชิตเวเสน โลกวญฺจนสงฺขาตํ อตฺถํ วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานนฺติ อิมํ ปราธีนตาปรวญฺจนตาปฏิกฺเขปวิภาวนํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

ตตฺถ น วายเมยฺย สพฺพตฺถาติ ทูเตยฺยโอจรกกมฺมาทิเก สพฺพสฺมิํ ปาปธมฺเม อิเม ราชปุริสา วิย ปพฺพชิโต น วายเมยฺย, วายามํ อุสฺสาหํ น กเรยฺย, สพฺพตฺถ ยตฺถ กตฺถจิ วายามํ อกตฺวา อปฺปมตฺตเกปิ ปุญฺญสฺมิํเยว วายเมยฺยาติ อธิปฺปาโยฯ นาญฺญสฺส ปุริโส สิยาติ ปพฺพชิตรูเปน อญฺญสฺส ปุคฺคลสฺส เสวกปุริโส น สิยาฯ กสฺมา? เอวรูปสฺสปิ โอจรกาทิปาปกมฺมสฺส กตฺตพฺพตฺตาฯ นาญฺญํ นิสฺสาย ชีเวยฺยาติ อญฺญํ ปรํ อิสฺสราทิํ นิสฺสาย ‘‘ตปฺปฏิพทฺธํ เม สุขทุกฺข’’นฺติ เอวํจิตฺโต หุตฺวา น ชีวิกํ ปวตฺเตยฺย, อตฺตทีโป อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ เอว ภเวยฺยฯ อถ วา อนตฺถาวหโต ‘‘โอจรณ’’นฺติ ลทฺธนามกตฺตา อญฺญํ อกุสลกมฺมํ นิสฺสาย น ชีเวยฺยฯ ธมฺเมน น วณิํ จเรติ ธนาทิอตฺถาย ธมฺมํ น กเถยฺยฯ โย หิ ธนาทิเหตุ ปเรสํ ธมฺมํ เทเสติ, โส ธมฺเมน วาณิชฺชํ กโรติ นาม, เอวํ ธมฺเมน ตํ น จเรยฺยฯ อถ วา ธนาทีนํ อตฺถาย โกสลรญฺโญ ปุริโส วิย โอจรกาทิกมฺมํ กโรนฺโต ปเรหิ อนาสงฺกนียตาย ปพฺพชฺชาลิงฺคสมาทานาทีนิ อนุติฏฺฐนฺโต ธมฺเมน วาณิชฺชํ กโรติ นามฯ

โยปิ อิธ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺโตปิ อญฺญตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรติ, โสปิ ธมฺเมน วาณิชฺชํ กโรติ นาม, เอวํ ธมฺเมน วาณิชฺชํ น จเร, น กเรยฺยาติ อตฺโถฯ

ทุติยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ปจฺจเวกฺขณสุตฺตวณฺณนา

[53] ตติเย อตฺตโน อเนเก ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเนติ โลภโทสโมหวิปรีตมนสิการอหิริกาโนตฺตปฺปโกธูปนาหมกฺขปลาสอิสฺสามจฺฉริยมายา- สาเฐยฺยถมฺภสารมฺภมานาติมานมทปมาทตณฺหาอวิชฺชาติวิธากุสลมูลทุจฺจริตสํกิเลสวิสม- สญฺญาวิตกฺกปปญฺจจตุพฺพิธวิปลฺลาสอาสวโอฆโยคคนฺถาคติคมนตณฺหุปาทานปญฺจวิธ- เจโตขิลปญฺจเจโตวินิพนฺธนีวรณาภินนฺทนฉวิวาท- มูลตณฺหากายสตฺตานุสยอฏฺฐมิจฺฉตฺตนว- ตณฺหามูลกทสากุสลกมฺมปถทฺวาสฏฺฐิทิฏฺฐิคตอฏฺฐสตตณฺหาวิจริตาทิปฺปเภเท อตฺตโน สนฺตาเน อนาทิกาลปวตฺเต ทิยฑฺฒสหสฺสกิเลเส ตํสหคเต จาปิ อเนเก ปาปเก ลามเก อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเฐน อกุสเล ธมฺเม อนวเสสํ สห วาสนาย โพธิมูเลเยว ปหีเน อริยมคฺเคน สมุจฺฉินฺเน ปจฺจเวกฺขมาโน ‘‘อยมฺปิ เม กิเลโส ปหีโน, อยมฺปิ เม กิเลโส ปหีโน’’ติ อนุปทปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจเวกฺขมาโน ภควา นิสินฺโน โหติฯ