เมนู

7. สาริปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

[37] สตฺตเม อปุพฺพํ นตฺถิฯ คาถาย อธิเจตโสติ อธิจิตฺตวโต, สพฺพจิตฺตานํ อธิเกน อรหตฺตผลจิตฺเตน สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถฯ อปฺปมชฺชโตติ น ปมชฺชโต, อปฺปมาเทน อนวชฺชธมฺเมสุ สาตจฺจกิริยาย สมนฺนาคตสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ มุนิโนติ ‘‘โย มุนาติ อุโภ โลเก, มุนิ เตน ปวุจฺจตี’’ติ (ธ. ป. 269; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส 21) เอวํ อุภยโลกมุนเนน โมนํ วุจฺจติ ญาณํ, เตน อรหตฺตผลญาณสงฺขาเตน ญาเณน สมนฺนาคตตฺตา วา ขีณาสโว มุนิ นาม, ตสฺส มุนิโนฯ โมนปเถสุ สิกฺขโตติ อรหตฺตญาณสงฺขาตสฺส โมนสฺส ปเถสุ สตฺตติํสโพธิปกฺขิยธมฺเมสุ ตีสุ วา สิกฺขาสุ สิกฺขโตฯ อิทญฺจ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ คเหตฺวา วุตฺตํฯ ปรินิฏฺฐิตสิกฺโข หิ อรหา, ตสฺมา เอวํ สิกฺขโต, อิมาย สิกฺขาย มุนิภาวํ ปตฺตสฺส มุนิโนติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพฯ ยสฺมา จ เอตเทว, ตสฺมา เหฏฺฐิมมคฺคผลจิตฺตานํ วเสน อธิเจตโส, จตุสจฺจสมฺโพธปฏิปตฺติยํ อปฺปมาทวเสน อปฺปมชฺชโต, มคฺคญาณสมนฺนาคเมน มุนิโนติ เอวเมเตสํ ติณฺณํ ปทานํ อตฺโถ ยุชฺชติเยวฯ อถ วา ‘‘อปฺปมชฺชโต สิกฺขโต’’ติ ปทานํ เหตุอตฺถตา ทฏฺฐพฺพา อปฺปมชฺชนเหตุ สิกฺขนเหตุ จ อธิเจตโสติฯ

โสกา น ภวนฺติ ตาทิโนติ ตาทิสสฺส ขีณาสวมุนิโน อพฺภนฺตเร อิฏฺฐวิโยคาทิวตฺถุกา โสกา จิตฺตสนฺตาปา น โหนฺติฯ อถ วา ตาทิโนติ ตาทิลกฺขณสมนฺนาคตสฺส เอวรูปสฺส มุนิโน โสกา น ภวนฺตีติ อยเมตฺถ อตฺโถฯ อุปสนฺตสฺสาติ ราคาทีนํ อจฺจนฺตูปสเมน อุปสนฺตสฺสฯ สทา สตีมโตติ สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา นิจฺจกาลํ สติยา อวิรหิตสฺสฯ

เอตฺถ จ ‘‘อธิเจตโส’’ติ อิมินา อธิจิตฺตสิกฺขา, ‘‘อปฺปมชฺชโต’’ติ เอเตน อธิสีลสิกฺขา, ‘‘มุนิโน โมนปเถสุ สิกฺขโต’’ติ เอเตหิ อธิปญฺญาสิกฺขาฯ ‘‘มุนิโน’’ติ วา เอเตน อธิปญฺญาสิกฺขา, ‘‘โมนปเถสุ สิกฺขโต’’ติ เอเตน ตาสํ โลกุตฺตรสิกฺขานํ ปุพฺพภาคปฏิปทา, ‘‘โสกา น ภวนฺตี’’ติอาทีหิ สิกฺขาปาริปูริยา อานิสํโส ปกาสิโตติ เวทิตพฺพํฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ

สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. สุนฺทรีสุตฺตวณฺณนา

[38] อฏฺฐเม สกฺกโตติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ เหฏฺฐา วณฺณิโตเยวฯ อสหมานาติ น สหมานา, อุสูยนฺตาติ อตฺโถฯ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ สกฺการํ อสหมานาติ สมฺพนฺโธฯ

สุนฺทรีติ ตสฺสา นามํฯ สา กิร ตสฺมิํ กาเล สพฺพปริพฺพาชิกาสุ อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา, เตเนว สา ‘‘สุนฺทรี’’ติ ปญฺญายิตฺถฯ สา จ อนตีตโยพฺพนา อสํยตสมาจาราว โหติ, ตสฺมา เต สุนฺทริํ ปริพฺพาชิกํ ปาปกมฺเม อุยฺโยเชสุํฯ

เต หิ อญฺญติตฺถิยา พุทฺธุปฺปาทโต ปฏฺฐาย สยํ หตลาภสกฺการา เหฏฺฐา อกฺโกสสุตฺตวณฺณนายํ อาคตนเยน ภควโต ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อุฬารํ อปริมิตํ ลาภสกฺการํ ปวตฺตมานํ ทิสฺวา อิสฺสาปกตา เอกโต หุตฺวา สมฺมนฺตยิํสุ – มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺฐาย นฏฺฐา หตลาภสกฺการา, น โน โกจิ อตฺถิภาวมฺปิ ชานาติ, กิํ นิสฺสาย นุ โข โลโก สมเณ โคตเม อภิปฺปสนฺโน อุฬารํ สกฺการสมฺมานํ อุปเนตีติ? ตตฺเถโก อาห – ‘‘อุจฺจากุลปฺปสุโต อสมฺภินฺนาย มหาสมฺมตปฺปเวณิยา ชาโต’’ติ, อปโร ‘‘อภิชาติยํ ตสฺส อเนกานิ อจฺฉริยานิ ปาตุภูตานี’’ติ, อญฺโญ ‘‘กาลเทวิลํ วนฺทาเปตุํ อุปนีตสฺส ปาทา ปริวตฺติตฺวา ตสฺส ชฏาสุ ปติฏฺฐิตา’’ติ, อปโร ‘‘วปฺปมงฺคลกาเล ชมฺพุจฺฉายาย สยาปิตสฺส วีติกฺกนฺเตปิ มชฺฌนฺหิเก ชมฺพุจฺฉายา อปริวตฺติตฺวา ฐิตา’’ติ, อญฺโญ ‘‘อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก รูปสมฺปตฺติยา’’ติ, อปโร ‘‘ชิณฺณาตุรมตปพฺพชิตสงฺขาตนิมิตฺเต ทิสฺวา สํเวคชาโต อาคามินํ จกฺกวตฺติรชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโต’’ติฯ เอวํ อปริมาณกาเล สมฺภตํ อนญฺญสาธารณํ ภควโต ปุญฺญญาณสมฺภารํ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตํ นิรุปมํ สลฺเลขปฺปฏิปทํ อนุตฺตรญฺจ ญาณปหานสมฺปทาทิพุทฺธานุภาวํ อชานนฺตา อตฺตนา ยถาทิฏฺฐํ ยถาสุตํ ธรมานํ ตํ ตํ ภควโต พหุมานการณํ กิตฺเตตฺวา อพหุมานการณํ ปริเยสิตฺวา อปสฺสนฺตา ‘‘เกน นุ โข การเณน มยํ สมณสฺส โคตมสฺส อยสํ อุปฺปาเทตฺวา ลาภสกฺการํ นาเสยฺยามา’’ติฯ เตสุ เอโก ติขิณมนฺตี เอวมาห – ‘‘อมฺโภ อิมสฺมิํ สตฺตโลเก มาตุคามสุเข อสตฺตสตฺตา นาม นตฺถิ, อยญฺจ สมโณ โคตโม อภิรูโป เทวสโม ตรุโณ, อตฺตโน สมรูปํ มาตุคามํ ลภิตฺวา สชฺเชยฺยฯ อถาปิ น สชฺเชยฺย, ชนสฺส ปน สงฺกิโย ภเวยฺย, หนฺท มยํ สุนฺทริํ ปริพฺพาชิกํ ตถา อุยฺโยเชม, ยถา สมณสฺส โคตมสฺส อยโส ปถวิยํ ปตฺถเรยฺยา’’ติฯ

ตํ สุตฺวา อิตเร ‘‘อิทํ สุฏฺฐุ ตยา จินฺติตํ, เอวญฺหิ กเต สมโณ โคตโม อยสเกน อุปทฺทุโต สีสํ อุกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺโต เยน วา เตน วา ปลายิสฺสตี’’ติ สพฺเพว เอกชฺฌาสยา หุตฺวา ตถา อุยฺโยเชตุํ สุนฺทริยา สนฺติกํ อคมํสุฯ สา เต ทิสฺวา ‘‘กิํ ตุมฺเห เอกโต อาคตตฺถา’’ติ อาหฯ ติตฺถิยา อนาลปนฺตา อารามปริยนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน ฐาเน นิสีทิํสุฯ สา ตตฺถ คนฺตฺวา ปุนปฺปุนํ อาลปนฺตี ปฏิวจนํ อลภิตฺวา กิํ ตุมฺหากํ อปรชฺฌํ? กสฺมา เม ปฏิวจนํ น เทถาติ? ตถา หิ ปน ตฺวํ อมฺเห วิเหฐิยมาเน อชฺฌุเปกฺขสีติ

โก ตุมฺเห วิเหเฐตีติ? ‘‘กิํ ปน ตฺวํ น ปสฺสสิ, สมณํ โคตมํ อมฺเห วิเหเฐตฺวา หตลาภสกฺกาเร กตฺวา วิจรนฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘ตตฺถ มยา กิํ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ ตฺวํ อภิกฺขณํ เชตวนสมีปํ คนฺตฺวา มหาชนสฺส เอวญฺเจวญฺจ วเทยฺยาสี’’ติ อาหํสุฯ สาปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ภควโต สกฺการํ อสหมานา’’ติอาทิฯ

ตตฺถ อุสฺสหสีติ สกฺโกสิฯ อตฺถนฺติ หิตํ กิจฺจํ วาฯ กฺยาหนฺติ กิํ อหํฯ ยสฺมา เต ติตฺถิยา ตสฺสา อญฺญาตกาปิ สมานา ปพฺพชฺชสมฺพนฺธมตฺเตน สงฺคณฺหิตุํ ญาตกา วิย หุตฺวา ‘‘อุสฺสหสิ ตฺวํ ภคินิ ญาตีนํ อตฺถํ กาตุ’’นฺติ อาหํสุฯ ตสฺมา สาปิ มิคํ วลฺลิ วิย ปาเท ลคฺคา ชีวิตมฺปิ เม ปริจฺจตฺตํ ญาตีนํ อตฺถายาติ อาหฯ

เตน หีติ ‘‘ยสฺมา ตฺวํ ‘ชีวิตมฺปิ เม ตุมฺหากํ อตฺถาย ปริจฺจตฺต’นฺติ วทสิ, ตฺวญฺจ ปฐมวเย ฐิตา อภิรูปา โสภคฺคปฺปตฺตา จ, ตสฺมา ยถา ตํ นิสฺสาย สมณสฺส โคตมสฺส อยโส อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตถา กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา ‘‘อภิกฺขณํ เชตวนํ คจฺฉาหี’’ติ อุยฺโยเชสุํฯ สาปิ โข พาลา กกจทนฺตปนฺติยา ปุปฺผาวลิกีฬํ กีฬิตุกามา วิย, ปภินฺนมทํ จณฺฑหตฺถิํ โสณฺฑาย ปรามสนฺตี วิย, นลาเฏน มจฺจุํ คณฺหนฺตี วิย ติตฺถิยานํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนตมฺพูลมุขวาสาทีนิ คเหตฺวา มหาชนสฺส สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นครํ ปวิสนกาเล เชตวนาภิมุขี คจฺฉนฺตี ‘‘กหํ คจฺฉสี’’ติ จ ปุฏฺฐา ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ, อหญฺหิ เตน สทฺธิํ เอกคนฺธกุฏิยํ วสามี’’ติ วตฺวา อญฺญตรสฺมิํ ติตฺถิยาราเม วสิตฺวา ปาโตว เชตวนมคฺคํ โอตริตฺวา นคราภิมุขี อาคจฺฉนฺตี ‘‘กิํ สุนฺทริ กหํ คตาสี’’ติ จ ปุฏฺฐา ‘‘สมเณน โคตเมน สทฺธิํ เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตฺวา ตํ กิเลสรติยา รมาเปตฺวา อาคตามฺหี’’ติ วทติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เอวํ อยฺยาติ โข สุนฺทรี ปริพฺพาชิกา เตสํ อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ ปฏิสฺสุตฺวา อภิกฺขณํ เชตวนํ อคมาสี’’ติฯ

ติตฺถิยา กติปาหสฺส อจฺจเยน ธุตฺตานํ กหาปเณ ทตฺวา ‘‘คจฺฉถ, สุนฺทริํ มาเรตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส คนฺธกุฏิยา อวิทูเร มาลากจวรนฺตเร นิกฺขิปิตฺวา เอถา’’ติ วทิํสุฯ เต ตถา อกํสุฯ

ตโต ติตฺถิยา ‘‘สุนฺทริํ น ปสฺสามา’’ติ โกลาหลํ กตฺวา รญฺโญ อาโรเจตฺวา ‘‘กตฺถ ปน ตุมฺเห ปริสงฺกถา’’ติ รญฺญา วุตฺตา อิเมสุ ทิวเสสุ เชตวเน วสติ, ตตฺถสฺสา ปวตฺติํ น ชานามาติฯ ‘‘เตน หิ คจฺฉถ, นํ ตตฺถ วิจินถา’’ติ รญฺญา อนุญฺญาตา อตฺตโน อุปฏฺฐาเก คเหตฺวา เชตวนํ คนฺตฺวา วิจินนฺตา วิย หุตฺวา มาลากจวรํ พฺยูหิตฺวา ตสฺสา สรีรํ มญฺจกํ อาโรเปตฺวา นครํ ปเวเสตฺวา ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา ‘สตฺถุนา กตํ ปาปกมฺมํ ปฏิจฺฉาเทสฺสามา’ติ สุนฺทริํ มาเรตฺวา มาลากจวรนฺตเร นิกฺขิปิํสู’’ติ รญฺโญ อาโรเจสุํฯ ราชาปิ อนุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เตน หิ คจฺฉถ, นครํ อาหิณฺฑถา’’ติ อาหฯ เต นครวีถีสุ ‘‘ปสฺสถ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วทนฺตา วิจริตฺวา ปุน รญฺโญ นิเวสนทฺวารํ อคมํสุฯ ราชา สุนฺทริยา สรีรํ อามกสุสาเน อฏฺฏกํ อาโรเปตฺวา รกฺขาเปสิฯ สาวตฺถิวาสิโน ฐเปตฺวา อริยสาวเก เยภุยฺเยน ‘‘ปสฺสถ สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ กมฺม’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อนฺโตนคเร พหินคเร จ ภิกฺขู อกฺโกสนฺตา วิจริํสุฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ยทา เต อญฺญิํสุ ติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ‘โวทิฏฺฐา โข สุนฺทรี’’’ติอาทิฯ

ตตฺถ อญฺญิํสูติ ชานิํสุฯ โวทิฏฺฐาติ พฺยปทิฏฺฐา, เชตวนํ อาคจฺฉนฺตี จ คจฺฉนฺตี จ วิเสสโต ทิฏฺฐา, พหุลํ ทิฏฺฐาติ อตฺโถฯ ปริขากูเปติ ทีฆิกาวาเฏ ยา สา, มหาราช, สุนฺทรีติ, มหาราช, ยา สา อิมสฺมิํ นคเร รูปสุนฺทรตาย ‘‘สุนฺทรี’’ติ ปากฏา อภิญฺญาตา ปริพฺพาชิกาฯ สา โน น ทิสฺสตีติ สา อมฺหากํ จกฺขุ วิย ชีวิตํ วิย จ ปิยายิตพฺพา, อิทานิ น ทิสฺสติฯ ยถานิกฺขิตฺตนฺติ ปุริเส อาณาเปตฺวา มาลากจวรนฺตเร อตฺตนา ยถาฐปิตํฯ ‘‘ยถานิขาต’’นฺติปิ ปาโฐ, ปถวิยํ นิขาตปฺปการนฺติ อตฺโถฯ

รถิยาย รถิยนฺติ วีถิโต วีถิํฯ วีถีติ หิ วินิวิชฺฌนกรจฺฉาฯ สิงฺฆาฏกนฺติ ติโกณรจฺฉาฯ อลชฺชิโนติ น ลชฺชิโน, ปาปชิคุจฺฉาวิรหิตาติ อตฺโถฯ ทุสฺสีลาติ นิสฺสีลาฯ ปาปธมฺมาติ ลามกสภาวา นิหีนาจาราฯ มุสาวาทิโนติ ทุสฺสีลา สมานา ‘‘สีลวนฺโต มย’’นฺติ อลิกวาทิตาย มุสาวาทิโนฯ อพฺรหฺมจาริโนติ ‘‘เมถุนปฺปฏิเสวิตาย อเสฏฺฐจาริโน อิเม หิ นามา’’ติ หีเฬนฺตา วทนฺติฯ ธมฺมจาริโนติ กุสลธมฺมจาริโนฯ สมจาริโนติ กายกมฺมาทิสมจาริโนฯ

กลฺยาณธมฺมาติ สุนฺทรสภาวา, ปฏิชานิสฺสนฺติ นามาติ สมฺพนฺโธฯ นามสทฺทโยเคน หิ เอตฺถ ปฏิชานิสฺสนฺตีติ อนาคตกาลวจนํฯ สามญฺญนฺติ สมณภาโว สมิตปาปตาฯ พฺรหฺมญฺญนฺติ เสฏฺฐภาโว พาหิตปาปตาฯ กุโตติ เกน การเณนฯ อปคตาติ อเปตา ปริภฏฺฐาฯ ปุริสกิจฺจนฺติ เมถุนปฺปฏิเสวนํ สนฺธาย วทนฺติฯ

อถ ภิกฺขู ตํ ปวตฺติํ ภควโต อาโรเจสุํฯ สตฺถา ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, ตุมฺเหปิ เต มนุสฺเส อิมาย คาถาย ปฏิโจเทถา’’ติ วตฺวา ‘‘อภูตวาที’’ติ คาถมาหฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สมฺพหุลา…เป.… นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถา’’ติฯ ตตฺถ เนโส, ภิกฺขเว, สทฺโท จิรํ ภวิสฺสตีติ อิทํ สตฺถา ตสฺส อยสสฺส นิปฺผตฺติํ สพฺพญฺญุตญฺญาเณน ชานิตฺวา ภิกฺขู สมสฺสาเสนฺโต อาหฯ

คาถายํ อภูตวาทีติ ปรสฺส โทสํ อทิสฺวาว มุสาวาทํ กตฺวา อภูเตน อตจฺเฉน ปรํ อพฺภาจิกฺขนฺโตฯ โย วาปิ กตฺวาติ โย วา ปน ปาปกมฺมํ กตฺวา ‘‘นาหํ เอตํ กโรมี’’ติ อาหฯ เปจฺจ สมา ภวนฺตีติ เต อุโภปิ ชนา อิโต ปรโลกํ คนฺตฺวา นิรยูปคมเนน คติยา สมา ภวนฺติฯ คติเยว หิ เนสํ ปริจฺฉินฺนา, อายู ปน อปริจฺฉินฺนาฯ พหุกญฺหิ ปาปํ กตฺวา จิรํ นิรเย ปจฺจติ, ปริตฺตกํ กตฺวา อปฺปมตฺตกเมว กาลํ ปจฺจติฯ ยสฺมา ปน เนสํ อุภินฺนมฺปิ ลามกเมว กมฺมํ, เตน วุตฺตํ – นิหีนกมฺมา มนุชา ปรตฺถาติฯ ‘‘ปรตฺถา’’ติ อิมสฺส ปน ปทสฺส ปุรโต ‘‘เปจฺจา’’ติปเทน สมฺพนฺโธ, เปจฺจ ปรตฺถ อิโต คนฺตฺวา เต นิหีนกมฺมา ปรโลเก สมา ภวนฺตีติ อตฺโถฯ

ปริยาปุณิตฺวาติ อุคฺคเหตฺวาฯ อการกาติ อปราธสฺส น การกาฯ

นยิเมหิ กตนฺติ เอวํ กิร เนสมโหสิ – อิเมหิ สมเณหิ สกฺยปุตฺติเยหิ อทฺธา ตํ ปาปกมฺมํ น กตํ, ยํ อญฺญติตฺถิยา อุคฺโฆสิตฺวา สกลนครํ อาหิณฺฑิํสุ, ยสฺมา อิเม อมฺเหสุ เอวํ อสพฺภาหิ ผรุสาหิ วาจาหิ อพฺภาจิกฺขนฺเตสุปิ น กิญฺจิ วิการํ ทสฺเสนฺติ, ขนฺติโสรจฺจญฺจ น วิชหนฺติ, เกวลํ ปน ‘‘อภูตวาที นิรยํ อุเปตี’’ติ ธมฺมํเยว วทนฺตา สปนฺติเยว, อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อมฺเห อนุปธาเรตฺวา อพฺภาจิกฺขนฺเต สปนฺติ, สปถํ กโรนฺตา วิย วทนฺติ ฯ อถ วา ‘‘โย วาปิ กตฺวา ‘น กโรมิ’ จาหา’’ติ วทนฺตา สปนฺติ, อตฺตโน อการกภาวํ โพเธตุํ อมฺหากํ สปถํ กโรนฺติ อิเมติ อตฺโถฯ

เตสญฺหิ มนุสฺสานํ ภควตา ภาสิตคาถาย สวนสมนนฺตรเมว พุทฺธานุภาเวน สารชฺชํ โอกฺกมิ, สํเวโค อุปฺปชฺชิ ‘‘นยิทํ อมฺเหหิ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺฐํ, สุตํ นาม ตถาปิ โหติ, อญฺญถาปิ โหติ, เอเต จ อญฺญติตฺถิยา อิเมสํ อนตฺถกามา อหิตกามา, ตสฺมา เต สทฺธาย นยิทํ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ, ทุชฺชานา หิ สมณา’’ติฯ เต ตโต ปฏฺฐาย ตโต โอรมิํสุฯ

ราชาปิ เยหิ สุนฺทรี มาริตา, เตสํ ชานนตฺถํ ปุริเส อาณาเปสิฯ อถ เต ธุตฺตา เตหิ กหาปเณหิ สุรํ ปิวนฺตา อญฺญมญฺญํ กลหํ กริํสุฯ เตสุ หิ เอโก เอกํ อาห – ‘‘ตฺวํ สุนฺทริํ เอกปฺปหาเรน มาเรตฺวา มาลากจวรนฺตเร ขิปิตฺวา ตโต ลทฺธกหาปเณหิ สุรํ ปิวสิ, โหตุ โหตู’’ติฯ ราชปุริสา ตํ สุตฺวา เต ธุตฺเต คเหตฺวา รญฺโญ ทสฺเสสุํฯ ราชา ‘‘ตุมฺเหหิ สา มาริตา’’ติ เต ธุตฺเต ปุจฺฉิฯ ‘‘อาม, เทวา’’ติฯ ‘‘เกหิ มาราปิตา’’ติ? ‘‘อญฺญติตฺถิเยหิ, เทวา’’ติฯ ราชา ติตฺถิเย ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ ปฏิชานาเปตฺวา, ‘‘อยํ สุนฺทรี ตสฺส สมณสฺส โคตมสฺส อวณฺณํ อาโรเปตุกาเมหิ อมฺเหหิ มาราปิตา, เนว โคตมสฺส, น โคตมสาวกานํ โทโส อตฺถิ, อมฺหากเมว โทโสติ เอวํ วทนฺตา นครํ อาหิณฺฑถา’’ติ อาณาเปสิฯ เต ตถา อกํสุฯ มหาชโน สมฺมเทว สทฺทหิฯ ติตฺถิยานํ ธิกฺการํ อกาสิ, ติตฺถิยา มนุสฺสวธทณฺฑํ ปาปุณิํสุฯ ตโต ปฏฺฐาย พุทฺธสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิยฺโยโสมตฺตาย สกฺการสมฺมาโน มหา อโหสิฯ ภิกฺขู อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา อตฺตมนา ปฏิเวเทสุํฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู…เป.… อนฺตรหิโต โส, ภนฺเต, สทฺโท’’ติฯ

กสฺมา ปน ภควา ‘‘ติตฺถิยานํ อิทํ กมฺม’’นฺติ ภิกฺขูนํ นาโรเจสิ? อริยานํ ตาว อาโรจเนน ปโยชนํ นตฺถิ, ปุถุชฺชเนสุ ปน ‘‘เย น สทฺทเหยฺยุํ, เตสํ ตํ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ นาโรเจสิฯ อปิเจตํ พุทฺธานํ อนาจิณฺณํ, ยํ อนาคตสฺส อีทิสสฺส วตฺถุสฺส อาจิกฺขนํฯ

ปรานุทฺเทสิกเมว หิ ภควา สํกิเลสปกฺขํ วิภาเวติ , กมฺมญฺจ กโตกาสํ น สกฺกา นิวตฺเตตุนฺติ อพฺภกฺขานํ ตนฺนิมิตฺตญฺจ ภควา อชฺฌุเปกฺขนฺโต นิสีทิฯ วุตฺตญฺเหตํ –

‘‘น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ,

น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวิสฺส;

น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส,

ยตฺถฏฺฐิโต มุจฺเจยฺย ปาปกมฺมา’’ติฯ (ธ. ป. 127; มิ. ป. 4.2.4);

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ มมฺมจฺเฉทนวเสนาปิ พาลชเนหิ ปวตฺติตํ ทุรุตฺตวจนํ ขนฺติพลสมนฺนาคตสฺส ธีรสฺส ทุตฺติติกฺขา นาม นตฺถีติ อิมมตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานนฺติ อิมํ อธิวาสนขนฺติพลวิภาวนํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

ตตฺถ ตุทนฺติ วาจาย ชนา อสญฺญตา, สเรหิ สงฺคามคตํว กุญฺชรนฺติ กายิกสํวราทีสุ กสฺสจิปิ สํวรสฺส อภาเวน อสํยตา อวินีตา พาลชนา สเรหิ สายเกหิ สงฺคามคตํ ยุทฺธคตํ กุญฺชรํว หตฺถินาคํ ปฏิโยธา วิย วาจาสตฺตีหิ ตุทนฺติ วิชฺฌนฺติ, อยํ เตสํ สภาโว สุตฺวาน วากฺยํ ผรุสํ อุทีริตํ, อธิวาสเย ภิกฺขุ อทุฏฺฐจิตฺโตติ ตํ ปน เตหิ พาลชเนหิ อุทีริตํ ภาสิตํ มมฺมฆฏฺฏนวเสน ปวตฺติตํ ผรุสํ วากฺยํ วจนํ อภูตํ ภูตโต นิพฺเพเฐนฺโต มม กกจูปมโอวาทํ (ม. นิ. 1.222 อาทโย) อนุสฺสรนฺโต อีสกมฺปิ อทุฏฺฐจิตฺโต หุตฺวา ‘‘สํสารสภาโว เอโส’’ติ สํสาเร ภยํ อิกฺขณสีโล ภิกฺขุ อธิวาสเย, อธิวาสนขนฺติยํ ฐตฺวา ขเมยฺยาติ อตฺโถฯ

เอตฺถาห – กิํ ปน ตํ กมฺมํ, ยํ อปริมาณกาลํ สกฺกจฺจํ อุปจิตวิปุลปุญฺญสมฺภาโร สตฺถา เอวํ ทารุณํ อภูตพฺภกฺขานํ ปาปุณีติ? วุจฺจเต – อยํ โส ภควา โพธิสตฺตภูโต อตีตชาติยํ มุนาฬิ นาม ธุตฺโต หุตฺวา ปาปชนเสวี อโยนิโสมนสิการพหุโล วิจรติฯ โส เอกทิวสํ สุรภิํ นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ นครํ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ จีวรํ ปารุปนฺตํ ปสฺสิฯ ตสฺมิญฺจ สมเย อญฺญตรา อิตฺถี ตสฺส อวิทูเรน คจฺฉติฯ ธุตฺโต ‘‘อพฺรหฺมจารี อยํ สมโณ’’ติ อพฺภาจิกฺขิฯ

โส เตน กมฺเมน พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺวา ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อิทานิ พุทฺโธ หุตฺวาปิ สุนฺทริยา การณา อภูตพฺภกฺขานํ ปาปุณิฯ ยถา เจตํ, เอวํ จิญฺจมาณวิกาทีนํ วิการกิตฺถีนํ ภควโต อพฺภกฺขานาทีนิ ทุกฺขานิ ปตฺตานิ, สพฺพานิ ปุพฺเพ กตสฺส กมฺมสฺส วิปากาวเสสานิ, ยานิ ‘‘กมฺมปิโลติกานี’’ติ วุจฺจนฺติฯ วุตฺตญฺเหตํ อปทาเน (อป. เถร 1.39.64-96) –

‘‘อโนตตฺตสราสนฺเน, รมณีเย สิลาตเล;

นานารตนปชฺโชเต, นานาคนฺธวนนฺตเรฯ

‘‘มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน, ปเรโต โลกนายโก;

อาสีโน พฺยากรี ตตฺถ, ปุพฺพกมฺมานิ อตฺตโนฯ

‘‘สุณาถ ภิกฺขโว มยฺหํ, ยํ กมฺมํ ปกตํ มยา;

ปิโลติกสฺส กมฺมสฺส, พุทฺธตฺเตปิ วิปจฺจติฯ

[1]

‘‘มุนาฬิ นามหํ ธุตฺโต, ปุพฺเพ อญฺญาสุ ชาติสุ;

ปจฺเจกพุทฺธํ สุรภิํ, อพฺภาจิกฺขิํ อทูสกํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, นิรเย สํสริํ จิรํ;

พหู วสฺสสหสฺสานิ, ทุกฺขํ เวเทมิ เวทนํฯ

‘‘เตน กมฺมาวเสเสน, อิธ ปจฺฉิมเก ภเว;

อพฺภกฺขานํ มยา ลทฺธํ, สุนฺทริกาย การณาฯ

[2]

‘‘สพฺพาภิภุสฺส พุทฺธสฺส, นนฺโท นามาสิ สาวโก;

ตํ อพฺภกฺขาย นิรเย, จิรํ สํสริตํ มยาฯ

‘‘ทส วสฺสสหสฺสานิ, นิรเย สํสริํ จิรํ;

มนุสฺสภาวํ ลทฺธาหํ, อพฺภกฺขานํ พหุํ ลภิํฯ

‘‘เตน กมฺมาวเสเสน, จิญฺจมาณวิกา มมํ;

อพฺภาจิกฺขิ อภูเตน, ชนกายสฺส อคฺคโตฯ

[3]

‘‘พฺราหฺมโณ สุตวา อาสิํ, อหํ สกฺกตปูชิโต;

มหาวเน ปญฺจสเต, มนฺเต วาเจมิ มาณเวฯ

‘‘ตตฺถาคโต อิสี ภีโม, ปญฺจาภิญฺโญ มหิทฺธิโก;

ตญฺจาหํ อาคตํ ทิสฺวา, อพฺภาจิกฺขิํ อทูสกํฯ

‘‘ตโตหํ อวจํ สิสฺเส, กามโภคี อยํ อิสิ;

มยฺหมฺปิ ภาสมานสฺส, อนุโมทิํสุ มาณวาฯ

‘‘ตโต มาณวกา สพฺเพ, ภิกฺขมานํ กุเล กุเล;

มหาชนสฺส อาหํสุ, กามโภคี อยํ อิสิฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, ปญฺจ ภิกฺขุสตา อิเม;

อพฺภกฺขานํ ลภุํ สพฺเพ, สุนฺทริกาย การณาฯ

[4]

‘‘เวมาตุภาติกํ ปุพฺเพ, ธนเหตุ หนิํ อหํ;

ปกฺขิปิํคิริทุคฺคสฺมิํ, สิลาย จ อปิํสยิํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เทวทตฺโต สิลํ ขิปิ;

องฺคุฏฺฐํ ปิํสยี ปาเท, มม ปาสาณสกฺขราฯ

[5]

‘‘ปุเรหํ ทารโก หุตฺวา, กีฬมาโน มหาปเถ;

ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวาน, มคฺเค สกลิกํ ขิปิํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, อิธ ปจฺฉิมเก ภเว;

วธตฺถํ มํ เทวทตฺโต, อภิมาเร ปโยชยิฯ

[6]

‘‘หตฺถาโรโห ปุเร อาสิํ, ปจฺเจกมุนิมุตฺตมํ;

ปิณฺฑาย วิจรนฺตํ ตํ, อาสาเทสิํ คเชนหํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, ภนฺโต นาฬาคิรี คโช;

คิริพฺพเช ปุรวเร, ทารุโณ สมุปาคมิฯ

[7]

‘‘ราชาหํ ปตฺถิโว อาสิํ, สตฺติยา ปุริเส หนิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, นิรเย ปจฺจิสํ ภุสํฯ

‘‘กมฺมุโน ตสฺส เสเสน, โสทานิ สกลํ มม;

ปาเท ฉวิํ ปกปฺเปสิ, น หิ กมฺมํ วินสฺสติฯ

[8]

‘‘อหํ เกวฏฺฏคามสฺมิํ, อหุํ เกวฏฺฏทารโก;

มจฺฉเก ฆาติเต ทิสฺวา, ชนยิํ โสมนสฺสกํฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, สีสทุกฺขํ อหู มม;

สกฺกา จ สพฺเพ หญฺญิํสุ, ยทา หนิ วิฏฏูโภฯ

[9]

‘‘ผุสฺสสฺสาหํ ปาวจเน, สาวเก ปริภาสยิํ;

ยวํ ขาทถ ภุญฺชถ, มา จ ภุญฺชถ สาลโยฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, เตมาสํ ขาทิตํ ยวํ;

นิมนฺติโต พฺราหฺมเณน, เวรญฺชายํ วสิํ ตทาฯ

[10]

‘‘นิพฺพุทฺเธ วตฺตมานมฺหิ, มลฺลปุตฺตํ นิเหฐยิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, ปิฏฺฐิทุกฺขํ อหู มมฯ

[11]

‘‘ติกิจฺฉโก อหํ อาสิํ, เสฏฺฐิปุตฺตํ วิเรจยิํ;

เตน กมฺมวิปาเกน, โหติ ปกฺขนฺทิกา มมฯ

[12]

‘‘อวจาหํ โชติปาโล, กสฺสปํ สุคตํ ตทา;

กุโต นุ โพธิ มุณฺฑสฺส, โพธิ ปรมทุลฺลภาฯ

‘‘เตน กมฺมวิปาเกน, อจริํ ทุกฺกรํ พหุํ;

ฉพฺพสฺสานุรุเวลายํ, ตโต โพธิํ อปาปุณิํฯ

‘‘นาหํ เอเตน มคฺเคน, ปาปุณิํ โพธิมุตฺตมํ;

กุมฺมคฺเคน คเวสิสฺสํ, ปุพฺพกมฺเมน วาริโตฯ

‘‘ปุญฺญปาปปริกฺขีโณ, สพฺพสนฺตาปวชฺชิโต;

อโสโก อนุปายาโส, นิพฺพายิสฺสมนาสโวฯ

‘‘เอวํ ชิโน วิยากาสิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อคฺคโต;

สพฺพาภิญฺญาพลปฺปตฺโต, อโนตตฺตมหาสเร’’ติฯ (อป. เถร 1.39.64-96);

อฏฺฐมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. อุปเสนสุตฺตวณฺณนา

[39] นวเม อุปเสนสฺสาติ เอตฺถ อุปเสโนติ ตสฺส เถรสฺส นามํ, วงฺคนฺตพฺราหฺมณสฺส ปน ปุตฺตตฺตา ‘‘วงฺคนฺตปุตฺโต’’ติ จ นํ โวหรนฺติฯ

อยญฺหิ เถโร อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส กนิฏฺฐภาตา, สาสเน ปพฺพชิตฺวา อปญฺญตฺเต สิกฺขาปเท อุปสมฺปทาย ทฺวิวสฺโส อุปชฺฌาโย หุตฺวา เอกํ ภิกฺขุํ อุปสมฺปาเทตฺวา เตน สทฺธิํ ภควโต อุปฏฺฐานํ คโต, ตสฺส ภิกฺขุโน ภควตา ตสฺส สทฺธิวิหาริกภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ขนฺธเก อาคตนเยน ‘‘อติลหุํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, อาวตฺโต พาหุลฺลาย, ยทิทํ คณพนฺธิย’’นฺติ (มหาว. 75) วิครหิโต ปโตทาภิตุนฺโน วิย อาชานีโย สํวิคฺคมานโส ‘‘ยทิปาหํ อิทานิ ปริสํ นิสฺสาย ภควตา วิครหิโต, ปริสํเยว ปน นิสฺสาย ปาสํสิโย ภเวยฺย’’นฺติ อุสฺสาหชาโต สพฺเพ ธุตธมฺเม สมาทาย วตฺตมาโน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา น จิรสฺเสว ฉฬภิญฺโญ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต มหาขีณาสโว หุตฺวา อตฺตโน นิสฺสิตเก ธุตงฺคธเร เอว กตฺวา เตหิ สทฺธิํ ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา สนฺถตสิกฺขาปเท (ปารา. 565 อาทโย) อาคตนเยน ‘‘ปาสาทิกา โข ตฺยายํ, อุปเสน, ปริสา’’ติ ปริสวเสน ภควโต สนฺติกา ลทฺธปสํโส ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สมนฺตปาสาทิกานํ ยทิทํ อุปเสโน วงฺคนฺตปุตฺโต’’ติ (อ. นิ. 1.213) เอตทคฺเค ฐปิโต อสีติยา มหาสาวเกสุ อพฺภนฺตโรฯ

โส เอกทิวสํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฺปฏิกฺกนฺโต อนฺเตวาสิเกสุ อตฺตโน อตฺตโน ทิวาฏฺฐานํ คเตสุ อุทกกุมฺภโต อุทกํ คเหตฺวา ปาเท ปกฺขาเลตฺวา คตฺตานิ สีติํ กตฺวา จมฺมกฺขณฺฑํ อตฺถริตฺวา ทิวาฏฺฐาเน ทิวาวิหารํ นิสินฺโน อตฺตโน คุเณ อาวชฺเชสิฯ ตสฺส เต อเนกสตา อเนกสหสฺสา โปงฺขานุโปงฺขํ อุปฏฺฐหิํสุฯ โส ‘‘มยฺหํ ตาว สาวกสฺส สโต อิเม เอวรูปา คุณา, กีทิสา นุ โข มยฺหํ สตฺถุ คุณา’’ติ ภควโต คุณาภิมุขํ มนสิการํ เปเสสิฯ เต ตสฺส ญาณพลานุรูปํ อเนกโกฏิสหสฺสา อุปฏฺฐหิํสุฯ