เมนู

โส พฺราหฺมโณ โส สมโณ ส ภิกฺขูติ โส เอวรูโป ขีณาสโว สพฺพโส พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ, โส เอว สมิตปาปตฺตา สมจริยาย จ สมโณ, โส เอว จ สพฺพโส ภินฺนกิเลสตฺตา ภิกฺขุ นามฯ เอวํภูโต จ, ภิกฺขเว, วจฺโฉ โส กถํ โทสนฺตโร กิญฺจิ กายกมฺมาทิํ ปวตฺเตยฺย, เกวลํ ปน วาสนาย อปฺปหีนตฺตา วสลวาเทน สมุทาจรตีติฯ

ฉฏฺฐสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. สกฺกุทานสุตฺตวณฺณนา

[27] สตฺตเม สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โหติ อญฺญตรํ สมาธิํ สมาปชฺชิตฺวาติ เอตฺถ เกจิ ตาว อาหุ ‘‘อรหตฺตผลสมาธิ อิธ ‘อญฺญตโร สมาธี’ติ อธิปฺเปโต’’ติฯ ตญฺหิ โส อายสฺมา พหุลํ สมาปชฺชติ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารตฺถํ, ปโหติ จ สตฺตาหมฺปิ ผลสมาปตฺติยา วีตินาเมตุํฯ ตถา หิ ภควตา –

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ…เป.… วิหรามิฯ กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป.… วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. 2.152) –

อาทินา นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิญฺญาทิเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺฐาเน ฐปิโต, น เจตฺถ ‘‘ยทิ เอวํ เถโร ยมกปาฏิหาริยมฺปิ กเรยฺยา’’ติ วตฺตพฺพํ สาวกสาธารณานํเยว ฌานาทีนํ อธิปฺเปตตฺตาติฯ

โปราณา ปนาหุ – อญฺญตรํ สมาธิํ สมาปชฺชิตฺวาติ นิโรธสมาปตฺติํ สมาปชฺชิตฺวาฯ กถํ ปน นิโรธสมาปตฺติ สมาธีติ วุตฺตา? สมาธานฏฺเฐนฯ โก ปนายํ สมาธานฏฺโฐ? สมฺมเทว อาธาตพฺพตาฯ

ยา หิ เอสา ปจฺจนีกธมฺเมหิ อกมฺปนียา พลปฺปตฺติยา สมถพลํ วิปสฺสนาพลนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ พเลหิ, อนิจฺจทุกฺขานตฺตนิพฺพิทาวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺควิวฏฺฏานุปสฺสนา จตฺตาริ มคฺคญาณานิ จตฺตาริ จ ผลญาณานีติ อิเมสํ โสฬสนฺนํ ญาณานํ วเสน โสฬสหิ ญาณจริยาหิ, ปฐมชฺฌานสมาธิอาทโย อฏฺฐ สมาธี เอกชฺฌํ กตฺวา คหิโต เตสํ อุปจารสมาธิ จาติ อิเมสํ นวนฺนํ สมาธีนํ วเสน นวหิ สมาธิจริยาหิ กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโรติ อิเมสํ ติณฺณํ สงฺขารานํ ตตฺถ ตตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ตถา วิหริตุกาเมน ยถาวุตฺเตสุ ฐาเนสุ วสีภาวปฺปตฺเตน อรหตา อนาคามินา วา ยถาธิปฺเปตํ กาลํ จิตฺตเจตสิกสนฺตานสฺส สมฺมเทว อปฺปวตฺติ อาธาตพฺพา, ตสฺสา ตถา สมาธาตพฺพตา อิธ สมาธานฏฺโฐ, เตนายํ วิหาโร สมาธีติ วุตฺโต, น อวิกฺเขปฏฺเฐนฯ เอเตนสฺส สมาปตฺติอตฺโถปิ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพฯ อิมญฺหิ นิโรธสมาปตฺติํ สนฺธาย ปฏิสมฺภิทามคฺเค –

‘‘กถํ ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ติณฺณํ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา โสฬสหิ ญาณจริยาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตาย สญฺญานิโรธสมาปตฺติยา ญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.83) –

ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทฺวีหิ พเลหี’’ติ ทฺเว พลานิ สมถพลํ วิปสฺสนาพลนฺติ วิตฺถาโรฯ สายํ นิโรธสมาปตฺติกถา วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. 2.867 อาทโย) สํวณฺณิตาวฯ กสฺมา ปนายํ เถโร ผลสมาปตฺติํ อสมาปชฺชิตฺวา นิโรธํ สมาปชฺชิ? สตฺเตสุ อนุกมฺปายฯ อยญฺหิ มหาเถโร สพฺพาปิ สมาปตฺติโย วฬญฺเชติ, สตฺตานุคฺคเหน ปน เยภุยฺเยน นิโรธํ สมาปชฺชติฯ ตญฺหิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺฐิตสฺส กโต อปฺปโกปิ สกฺกาโร วิเสสโต มหปฺผโล มหานิสํโส โหตีติฯ

วุฏฺฐาสีติ อรหตฺตผลจิตฺตุปฺปตฺติยา วุฏฺฐาสิฯ นิโรธํ สมาปนฺโน หิ อรหา เจ อรหตฺตผลสฺส, อนาคามี เจ อนาคามิผลสฺส อุปฺปาเทน วุฏฺฐิโต นาม โหติฯ

เตน โข ปน สมเยน สกฺโก เทวานมินฺโท อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม โหตีติ กถํ ตสฺส ทาตุกามตา ชาตา? ยานิ ‘‘ตานิ ปญฺจมตฺตานิ เทวตาสตานี’’ติ วุตฺตานิ, ตา สกฺกสฺส เทวรญฺโญ ปริจาริกา กกุฏปาทินิโย ปุพฺเพ ‘‘อยฺโย มหากสฺสโป ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสติ, คจฺฉถ เถรสฺส ทานํ เทถา’’ติ สกฺเกน เปสิตา อุปคนฺตฺวา ทิพฺพาหารํ ทาตุกามา ฐิตา เถเรน ปฏิกฺขิตฺตา เทวโลกเมว คตาฯ อิทานิ ปุริมปฺปฏิกฺเขปํ จินฺเตตฺวา ‘‘กทาจิ คณฺเหยฺยา’’ติ สมาปตฺติโต วุฏฺฐิตสฺส เถรสฺส ทานํ ทาตุกามา สกฺกสฺส อนาโรเจตฺวา สยเมว อาคนฺตฺวา ทิพฺพโภชนานิ อุปเนนฺติโย ปุริมนเยเนว เถเรน ปฏิกฺขิตฺตา เทวโลกํ คนฺตฺวา สกฺเกน ‘‘กหํ คตตฺถา’’ติ ปุฏฺฐา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ทินฺโน โว เถรสฺส ปิณฺฑปาโต’’ติ สกฺเกน วุตฺเต ‘‘คณฺหิตุํ น อิจฺฉตี’’ติฯ ‘‘กิํ กเถสี’’ติ? ‘‘‘ทุคฺคตานํ สงฺคหํ กริสฺสามี’ติ อาห, เทวา’’ติฯ ‘‘ตุมฺเห เกนากาเรน คตา’’ติ? ‘‘อิมินาว, เทวา’’ติฯ สกฺโก ‘‘ตุมฺหาทิสิโย เถรสฺส ปิณฺฑปาตํ กิํ ทสฺสนฺตี’’ติ? สยํ ทาตุกาโม, ชราชิณฺโณ ขณฺฑทนฺโต ปลิตเกโส โอภคฺคสรีโร มหลฺลโก ตนฺตวาโย หุตฺวา, สุชมฺปิ อสุรธีตรํ ตถารูปิเมว มหลฺลิกํ กตฺวา, เอกํ เปสการวีถิํ มาเปตฺวา ตนฺตํ ปสาเรนฺโต อจฺฉิ, สุชา ตสรํ ปูเรติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘เตน โข ปน สมเยน สกฺโก เทวานมินฺโท…เป.… ตสรํ ปูเรตี’’ติฯ

ตตฺถ ตนฺตํ วินาตีติ ปสาริตตนฺตํ วินนฺโต วิย โหติฯ ตสรํ ปูเรตีติ ตสรวฏฺฏิํ วฑฺเฒนฺตี วิยฯ เยน สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมีติ เถโร นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ‘‘ทุคฺคตชนสงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ นคราภิมุโข คจฺฉนฺโต พหินคเร สกฺเกน มาปิตํ เปสการวีถิํ ปฏิปชฺชิตฺวา โอโลเกนฺโต อทฺทส โอลุคฺควิลุคฺคชิณฺณสาลํ ตตฺถ จ เต ชายมฺปติเก ยถาวุตฺตรูเป ตนฺตวายกมฺมํ กโรนฺเต ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม มหลฺลกกาเลปิ กมฺมํ กโรนฺติฯ อิมสฺมิํ นคเร อิเมหิ ทุคฺคตตรา นตฺถิ มญฺเญฯ อิเมหิ ทินฺนํ สากมตฺตมฺปิ คเหตฺวา อิเมสํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติฯ โส เตสํ เคหาภิมุโข อคมาสิฯ สกฺโก ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สุชํ อาห – ‘‘ภทฺเท, มยฺหํ อยฺโย อิโต อาคจฺฉติ, ตํ ตฺวํ อปสฺสนฺตี วิย ตุณฺหี หุตฺวา นิสีทฯ ขเณเนว วญฺเจตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทสฺสามา’’ติ เถโร คนฺตฺวา เคหทฺวาเร อฏฺฐาสิฯ เตปิ อปสฺสนฺตา วิย อตฺตโน กมฺมเมว กโรนฺตา โถกํ อาคมยิํสุฯ อถ สกฺโก ‘‘เคหทฺวาเร ฐิโต เอโก เถโร วิย ขายติ, อุปธาเรหิ ตาวา’’ติ อาหฯ ‘‘ตุมฺเห คนฺตฺวา อุปธาเรถ, สามี’’ติฯ

โส เคหา นิกฺขมิตฺวา เถรํ ปญฺจปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ชณฺณุกานิ โอลุมฺพิตฺวา นิตฺถุนนฺโต อุฏฺฐาย ‘‘กตรตฺเถโร นุ โข อยฺโย’’ติ โถกํ โอสกฺกิตฺวา ‘‘อกฺขีนิ เม ธูมายนฺตี’’ติ วตฺวา นลาเฏ หตฺถํ ฐเปตฺวา อุทฺธํ อุลฺโลเกตฺวา ‘‘อโห ทุกฺขํ อยฺโย โน มหากสฺสปตฺเถโรว จิรสฺสํ เม กุฏิทฺวารํ อาคโตฯ อตฺถิ นุ โข กิญฺจิ เคเห’’ติ อาหฯ สุชา โถกํ อากุลา วิย หุตฺวา ‘‘อตฺถิ, สามี’’ติ ปฏิวจนํ อทาสิฯ สกฺโก, ‘‘ภนฺเต, ลูขํ วา ปณีตํ วาติ อจินฺเตตฺวา สงฺคหํ โน กโรถา’’ติ ปตฺตํ คณฺหิฯ เถโร ปตฺตํ เทนฺโต ‘‘อิเมสํ เอว ทุคฺคตานํ ชราชิณฺณานํ มยา สงฺคโห กาตพฺโพ’’ติ จินฺเตสิฯ โส อนฺโต ปวิสิตฺวา ฆฏิโอทนํ นาม ฆฏิโต อุทฺธริตฺวา, ปตฺตํ ปูเรตฺวา, เถรสฺส หตฺเถ ฐเปสิฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทสา โข สกฺโก เทวานมินฺโท…เป.… อทาสี’’ติฯ

ตตฺถ ฆฏิยาติ ภตฺตฆฏิโตฯ ‘‘ฆฏิโอทน’’นฺติปิ ปาโฐ, ตสฺส ฆฏิโอทนํ นาม เทวานํ โกจิ อาหารวิเสโสติ อตฺถํ วทนฺติฯ อุทฺธริตฺวาติ กุโตจิ ภาชนโต อุทฺธริตฺวาฯ อเนกสูโป โส เอว อาหาโร ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา เถรสฺส หตฺเถ ฐปนกาเล กปณานํ อุปกปฺปนกลูขาหาโร วิย ปญฺญายิตฺถ, หตฺเถ ฐปิตมตฺเต ปน อตฺตโน ทิพฺพสภาเวเนว อฏฺฐาสิฯ อเนกสูโปติ มุคฺคมาสาทิสูเปหิ เจว ขชฺชวิกตีหิ จ อเนกวิธสูโปฯ อเนกพฺยญฺชโนติ นานาวิธอุตฺตริภงฺโคฯ อเนกรสพฺยญฺชโนติ อเนเกหิ สูเปหิ เจว พฺยญฺชเนหิ จ มธุราทิมูลรสานญฺเจว สมฺภินฺนรสานญฺจ อภิพฺยญฺชโก, นานคฺครสสูปพฺยญฺชโนติ อตฺโถฯ

โส กิร ปิณฺฑปาโต เถรสฺส หตฺเถ ฐปิตกาเล ราชคหนครํ อตฺตโน ทิพฺพคนฺเธน อชฺโฌตฺถริ, ตโต เถโร จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ปุริโส อปฺเปสกฺโข, ปิณฺฑปาโต อติวิย ปณีโต สกฺกสฺส โภชนสทิโสฯ โก นุ โข เอโส’’ติ? อถ นํ ‘‘สกฺโก’’ติ ญตฺวา อาห – ‘‘ภาริยํ เต, โกสิย, กมฺมํ กตํ ทุคฺคตานํ สมฺปตฺติํ วิลุมฺปนฺเตน, อชฺช มยฺหํ ทานํ ทตฺวา โกจิเทว ทุคฺคโต เสนาปติฏฺฐานํ วา เสฏฺฐิฏฺฐานํ วา ลเภยฺยา’’ติฯ

‘‘โก มยา ทุคฺคตตโร อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘กถํ ตฺวํ ทุคฺคโต เทวรชฺชสิริํ อนุภวนฺโต’’ติ? ‘‘ภนฺเต, เอวํ นาเมตํ, มยา ปน อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ กลฺยาณกมฺมํ กตํ, พุทฺธุปฺปาเท ปน วตฺตมาเน ปุญฺญกมฺมํ กตฺวา จูฬรถเทวปุตฺโต มหารถเทวปุตฺโต อเนกวณฺณเทวปุตฺโตติ อิเม ตโย เทวปุตฺตา มมาสนฺนฏฺฐาเน นิพฺพตฺตา มหาเตชวนฺตตราฯ อหํ เตสุ เทวปุตฺเตสุ ‘นกฺขตฺตํ กีฬิสฺสามา’ติ ปริจาริกาโย คเหตฺวา อนฺตรวีถิํ โอติณฺเณสุ ปลายิตฺวา เคหํ ปวิสามิฯ เตสญฺหิ สรีรโต เตโช มม สรีรํ โอตฺถรติ, มม สรีรโต เตโช เตสํ สรีรํ น โอตฺถรติฯ โก มยา ทุคฺคตตโร, ภนฺเต’’ติ? ‘‘เอวํ สนฺเตปิ อิโต ปฏฺฐาย มยฺหํ มา เอวํ วญฺเจตฺวา ทานมทาสี’’ติฯ ‘‘วญฺเจตฺวา ตุมฺหากํ ทาเน ทินฺเน มยฺหํ กุสลํ อตฺถิ นตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, อาวุโส’’ติฯ ‘‘เอวํ สนฺเต กุสลกรณํ นาม มยฺหํ ภาโร, ภนฺเต’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา สุชํ อาทาย เถรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา, เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ, กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิต’’นฺติ ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อถ โข อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสี’’ติอาทิฯ

ตตฺถ โกสิยาติ สกฺกํ เทวานมินฺทํ โคตฺเตน อาลปติฯ ปุญฺเญน อตฺโถติ ปุญฺเญน ปโยชนํฯ อตฺถีติ วจนเสโสฯ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวาติ ปถวิโต เวหาสํ อภิอุคฺคนฺตฺวาฯ อากาเส อนฺตลิกฺเขติ อากาสเมว ปริยายสทฺเทน อนฺตลิกฺเขติ วทนฺติฯ อถ วา อนฺตลิกฺขสงฺขาเต อากาเส น กสิณุคฺฆาฏิมาทิอากาเสติ วิเสเสนฺโต วทติฯ อโห ทานนฺติ เอตฺถ อโหติ อจฺฉริยตฺเถ นิปาโตฯ สกฺโก หิ เทวานมินฺโท, ‘‘ยสฺมา นิโรธา วุฏฺฐิตสฺส อยฺยสฺส มหากสฺสปตฺเถรสฺส สกฺกจฺจํ สหตฺเถน จิตฺตีกตฺวา อนปวิทฺธํ กาเลน ปเรสํ อนุปหจฺจ, สมฺมาทิฏฺฐิํ ปุรกฺขตฺวา อิทมีทิสํ มยา ทิพฺพโภชนทานํ ทินฺนํ, ตสฺมา เขตฺตสมฺปตฺติ เทยฺยธมฺมสมฺปตฺติ จิตฺตสมฺปตฺตีติ, ติวิธายปิ สมฺปตฺติยา สมนฺนาคตตฺตา สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ วต มยา ทานํ ปวตฺติต’’นฺติ อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต ตทา อตฺตโน หทยพฺภนฺตรคตํ ปีติโสมนสฺสํ สมุคฺคิรนฺโต ‘‘อโห ทาน’’นฺติ วตฺวา ตสฺส ทานสฺส วุตฺตนเยน อุตฺตมทานภาวํ เขตฺตงฺคตภาวญฺจ ปกาเสนฺโต ‘‘ปรมทานํ กสฺสเป สุปฺปติฏฺฐิต’’นฺติ อุทานํ อุทาเนสิฯ

เอวํ ปน สกฺกสฺส อุทาเนนฺตสฺส ภควา วิหาเร ฐิโตเยว ทิพฺพโสเตน สทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปสฺสถ, ภิกฺขเว, สกฺกํ เทวานมินฺทํ อุทานํ อุทาเนตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺต’’นฺติ ภิกฺขูนํ วตฺวา เตหิ ‘‘กิํ ปน, ภนฺเต, เตน กต’’นฺติ ปุฏฺโฐ ‘‘มม ปุตฺตสฺส กสฺสปสฺส วญฺเจตฺวา ทานํ อทาสิ, เตน จ อตฺตมโน อุทาเนสี’’ติ อาหฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อสฺโสสิ โข ภควา ทิพฺพาย โสตธาตุยา’’ติอาทิฯ

ตตฺถ ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพาฯ เทวตานญฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตา ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธา อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณํ คเหตุํ สมตฺถา ทิพฺพปสาทโสตธาตุ โหติฯ อยญฺจาปิ ภควโต วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตา ญาณมยา โสตธาตุ ตาทิสา เอวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพาฯ อปิ จ ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพาฯ สวนฏฺเฐน จ สภาวธารณฏฺเฐน จ โสตธาตุ, โสตธาตุยาปิ กิจฺจกรเณน โสตธาตุ วิยาติ โสตธาตุ, ตาย ทิพฺพาย โสตธาตุยาฯ วิสุทฺธายาติ ปริสุทฺธาย นิรุปกฺกิเลสายฯ อติกฺกนฺตมานุสิกายาติ มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา สทฺทสฺสวเนน มานุสิกมํสโสตธาตุํ อติกฺกมิตฺวา ฐิตายฯ

เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ ‘‘สมฺมาปฏิปตฺติยา คุณวิเสเส ปติฏฺฐิตํ ปุริสาติสยํ เทวาปิ มนุสฺสาปิ อาทรชาตา อติวิย ปิหยนฺตี’’ติ อิมมตฺถํ วิทิตฺวา ตทตฺถทีปนํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิฯ

ตตฺร ปิณฺฑปาติกงฺคสงฺขาตํ ธุตงฺคํ สมาทาย ตสฺส ปริปูรเณน ปิณฺฑปาติกสฺสฯ นนุ จายํ คาถา อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ นิมิตฺตํ กตฺวา ภาสิตา, เถโร จ สพฺเพสํ ธุตวาทานํ อคฺโค เตรสธุตงฺคธโร, โส กสฺมา เอเกเนว ธุตงฺเคน กิตฺติโตติ? อฏฺฐุปฺปตฺติวเสนายํ นิทฺเทโสฯ อถ วา เทสนามตฺตเมตํ, อิมินา เทสนาสีเสน สพฺเพปิสฺส ธุตงฺคา วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ อถ วา ‘‘ยถาปิ ภมโร ปุปฺผ’’นฺติ (ธ. ป. 49) คาถาย วุตฺตนเยน ปรมปฺปิจฺฉตาย กุลานุทฺทยตาย จสฺส สพฺพํ ปิณฺฑปาติกวตฺตํ อกฺขณฺเฑตฺวา ตตฺถ สาติสยํ ปฏิปตฺติยา ปกาสนตฺถํ ‘‘ปิณฺฑปาติกสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ ปิณฺฑปาติกสฺสาติ จ ปิหยนฺตีติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา สมฺปทานวจนํ, ตํ อุปโยคตฺเถ ทฏฺฐพฺพํฯ อตฺตภรสฺสาติ ‘‘อปฺปานิ จ ตานิ สุลภานิ อนวชฺชานี’’ติ (อ. นิ. 4.27; อิติวุ. 101) เอวํ วุตฺเตหิ อปฺปานวชฺชสุลภรูเปหิ จตูหิ ปจฺจเยหิ อตฺตานเมว ภรนฺตสฺสฯ อนญฺญโปสิโนติ อามิสสงฺคณฺหเนน อญฺเญ สิสฺสาทิเก โปเสตุํ อนุสฺสุกฺกตาย อนญฺญโปสิโนฯ

ปททฺวเยนสฺส กายปริหาริเกน จีวเรน กุจฺฉิปริหาริเกน ปิณฺฑปาเตน วิจรณโต สลฺลหุกวุตฺติตํ สุภรตํ ปรมญฺจ สนฺตุฏฺฐิํ ทสฺเสติฯ อถ วา อตฺตภรสฺสาติ เอกวจนิจฺฉาย อตฺตภาวสงฺขาตํ เอกํเยว อิมํ อตฺตานํ ภรติ, น อิโต ปรํ อญฺญนฺติ อตฺตภโร, ตโต เอว อตฺตนา อญฺญสฺส โปเสตพฺพสฺส อภาวโต อนญฺญโปสี, ตสฺส อตฺตภรสฺส อนญฺญโปสิโนฯ ปททฺวเยนปิ ขีณาสวภาเวน อายติํ อนาทานตํ ทสฺเสติฯ

เทวา ปิหยนฺติ…เป.… สตีมโตติ ตํ อคฺคผลาธิคเมน สพฺพกิเลสทรถปริฬาหานํ วูปสเมน ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา อุปสนฺตํ, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา นิจฺจกาลํ สโตการิตาย สติมนฺตํ, ตโต เอว อิฏฺฐานิฏฺฐาทีสุ ตาทิลกฺขณปฺปตฺตํ ขีณาสวํ สกฺกาทโย เทวา ปิหยนฺติ ปตฺเถนฺติ, ตสฺส สีลาทิคุณวิเสเสสุ พหุมานํ อุปฺปาเทนฺตา อาทรํ ชเนนฺติ, ปเคว มนุสฺสาติฯ

สตฺตมสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. ปิณฺฑปาติกสุตฺตวณฺณนา

[28] อฏฺฐเม ปจฺฉาภตฺตนฺติ เอกาสนิกขลุปจฺฉาภตฺติกานํ ปาโตว ภุตฺตานํ อนฺโตมชฺฌนฺหิโกปิ ปจฺฉาภตฺตเมว, อิธ ปน ปกติภตฺตสฺเสว ปจฺฉโต ปจฺฉาภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตานนฺติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺตานํ, ปิณฺฑปาตํ ปริเยสิตฺวา ภตฺตกิจฺจสฺส นิฏฺฐาปนวเสน ตโต นิวตฺตานํฯ กเรริมณฺฑลมาเฬติ เอตฺถ กเรรีติ วรุณรุกฺขสฺส นามํฯ โส กิร คนฺธกุฏิยา มณฺฑปสฺส สาลาย จ อนฺตเร โหติ, เตน คนฺธกุฏีปิ ‘‘กเรริกุฏิกา’’ติ วุจฺจติ, มณฺฑโปปิ สาลาปิ ‘‘กเรริมณฺฑลมาโฬ’’ติฯ ตสฺมา กเรริรุกฺขสฺส อวิทูเร กเต นิสีทนสาลสงฺขาเต มณฺฑลมาเฬฯ ติณปณฺณจฺฉทนํ อโนวสฺสกํ ‘‘มณฺฑลมาโฬ’’ติ วทนฺติ, อติมุตฺตกาทิลตามณฺฑโป ‘‘มณฺฑลมาโฬ’’ติ อปเรฯ

กาเลน กาลนฺติ กาเล กาเล อนฺตรนฺตรา, ตสฺมิํ ตสฺมิํ สมเยติ อตฺโถฯ มนาปิเกติ มนวฑฺฒเก, ปิยรูเป อิฏฺเฐติ อตฺโถฯ อิฏฺฐานิฏฺฐภาโว จ ปุคฺคลวเสน จ ทฺวารวเสน จ คเหตพฺโพฯ