เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
รวมธรรมที่มีในราคเปยยาล

เพื่อกำหนดรู้ราคะ... เพื่อความสิ้นราคะ ... เพื่อละราคะ ... เพื่อความสิ้น
ไปแห่งราคะ... เพื่อความเสื่อมไปแห่งราคะ... เพื่อความคลายไปแห่งราคะ... เพื่อ
ความดับไปแห่งราคะ... เพื่อสละราคะ ... เพื่อสละคืนราคะ บุคคลควรเจริญธรรม
3 ประการนี้
เพื่อรู้ยิ่งโทสะ(ความคิดประทุษร้าย)... เพื่อกำหนดรู้โทสะ... เพื่อความสิ้นโทสะ...
เพื่อละโทสะ... เพื่อความสิ้นไปแห่งโทสะ... เพื่อความเสื่อมไปแห่งโทสะ... เพื่อความ
คลายไปแห่งโทสะ... เพื่อความดับไปแห่งโทสะ... เพื่อความสละโทสะ... เพื่อความ
สละคืนโทสะ... โมหะ(ความหลง)... โกธะ(ความโกรธ)... อุปนาหะ (ความผูกโกรธ)...
มักขะ(ความลบหลู่คุณท่าน)... ปลาสะ(ความตีเสมอ)... อิสสา (ความริษยา)...
มัจฉริยะ(ความตระหนี่)... มายา(มารยา)... สาเถยยะ(ความโอ้อวด)...
ถัมภะ(ความหัวดื้อ)... สารัมภะ(ความแข่งดี)... มานะ(ความถือตัว)... อติมานะ
(ความดูหมิ่นเขา)... มทะ(ความมัวเมา)... ปมาทะ(ความประมาท)...
บุคคลควรเจริญธรรม 3 ประการนี้

[เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ ภิกษุเหล่านั้นมีใจยินดี ต่างชื่นชมภาษิตของ
พระผู้มีพระภาค]

ราคเปยยาลที่ 8 จบ
รวมธรรมที่มีในเปยยาลนี้ คือ

1. ราคะ 2. โทสะ
3. โมหะ 4. โกธะ
5. อุปนาหะ 6. มักขะ
7. ปลาสะ 8. อิสสา
9. มัจฉริยะ 10. มายา
11. สาเถยยะ 12. ถัมภะ
13. สารัมภะ 14. มานะ
15. อติมานะ 16. มทะ
17. ปมาทะ


พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
รวมธรรมที่มีในราคเปยยาล

ธรรมเหล่านี้อยู่ในราคเปยยาล พระผู้มีพระภาคตรัสโดยเทียบเคียงกับ
โอปัมมสูตร ทรงประสงค์ธรรม 10 ประการเหล่านี้ คือ อภิญญา(รู้ยิ่ง)
ปริญญา(การกำหนดรู้) ปริกขยา(ความสิ้น) ปหานะ(การละ) ขยะ(ความสิ้นไป)
วยะ(ความเสื่อมไป) วิราคะ(ความคลายไป) นิโรธะ(ความดับไป) จาคะ(ความสละ)
ปฏินิสสัคคะ(ความสละคืน) และทรงกำหนดธรรม 3 ประการ คือ (1) สุญญตะ
(ความว่าง) (2) อนิมิตตะ(ธรรมไม่มีนิมิต) (3) อัปปณิหิตะ(ธรรมไม่มีความ
ตั้งปรารถนา) มีสมาธิเป็นมูล แม้ในเปยยาลทั้งหมดแล

ติกนิบาต จบบริบูรณ์