เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [3. ตติยปัณณาสก์]
4. โยธาชีววรรค 12. ทุติยโมรนิวาปสูตร

11. ปฐมโมรนิวาปสูตร
ว่าด้วยอารามปริพาชกชื่อโมรนิวาปะ สูตรที่ 1

[144] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปริพาชการาม ชื่อ
โมรนิวาปะ เขตกรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลาย
มาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาค
จึงได้ตรัสเรื่องนี้ว่า
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการย่อมมีความสำเร็จสูงสุด
มีความเกษมสูงสุด ประพฤติพรหมจรรย์ลุล่วงถึงที่สุด และถึงที่สุดแห่งที่สุด ประเสริฐ
กว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. สีลขันธ์(กองศีล)ที่เป็นของพระอเสขะ
2. สมาธิขันธ์(กองสมาธิ)ที่เป็นของพระอเสขะ
3. ปัญญาขันธ์(กองปัญญา)ที่เป็นของพระอเสขะ
ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แลย่อมมีความสำเร็จสูงสุด มีความ
เกษมสูงสุด ประพฤติพรหมจรรย์ลุล่วงถึงที่สุด และถึงที่สุดแห่งที่สุด ประเสริฐกว่า
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

ปฐมโมรนิวาปสูตรที่ 11 จบ

12. ทุติยโมรนิวาปสูตร
ว่าด้วยอารามปริพาชกชื่อโมรนิวาปะ สูตรที่ 2

[145] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 3 ประการย่อมมีความสำเร็จ
สูงสุด มีความเกษมสูงสุด ประพฤติพรหมจรรย์ลุล่วงถึงที่สุด และถึงที่สุดแห่งที่สุด
ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ธรรม 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. อิทธิปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คือฤทธิ์)
2. อาเทสนาปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คือการทายใจ)
3. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คืออนุศาสนี)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 20 หน้า :393 }