เมนู

พระสุตตัตนตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์]
2. มหาวรรค 8. อัญญติตถิยสูตร

แต่ถ้าบัณฑิตรู้จักกาลอันเหมาะสมแล้ว
ประสงค์จะพูด ควรมีความรู้ ไม่โกรธ ไม่ฟุ้งซ่าน
ไม่โอ้อวด ไม่ใจเบาหุนหันพลันแล่น ไม่คอยจับผิด
พูดแต่เรื่องที่เกี่ยวกับบุคคลผู้ดำรงอยู่ในธรรม
เป็นเรื่องที่พระอริยะประพฤติกันมา
เพราะรู้ทั่วถึงโดยชอบ เขาไม่พูดริษยา
บุคคลควรชื่นชมถ้อยคำที่เป็นสุภาษิต
ไม่ควรเลื่อมใสถ้อยคำที่เป็นทุพภาษิต
ไม่ควรใส่ใจถึงความแข่งดี
และไม่ควรคอยจับผิด ไม่ควรพูดทับถม
ไม่ควรพูดย่ำยี ไม่ควรพูดเหลาะแหละ
เพื่อความรู้ เพื่อความเลื่อมใส
สัตบุรุษทั้งหลายจึงมีการปรึกษากัน
พระอริยะทั้งหลายย่อมปรึกษากันเช่นนั้นแล
นี้เป็นการปรึกษากันของพระอริยะทั้งหลาย
บุคคลผู้มีปัญญารู้เรื่องนี้แล้ว
ไม่ควรถือตัว ควรปรึกษากัน

กถาวัตถุสูตรที่ 7 จบ

8. อัญญติตถิยสูตร
ว่าด้วยพวกอัญเดียรถีย์

[69] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก
พึงถามอย่างนี้ว่า
ท่านทั้งหลาย ธรรม 3 ประการนี้ คือ (1) ราคะ(ความกำหนัด) (2) โทสะ
(ความคิดประทุษร้าย) (3) โมหะ(ความหลง) ท่านทั้งหลาย ธรรม 3 ประการนี้
แล ธรรม 3 ประการนี้มีความแปลกกันอย่างไร มีคำอธิบายอย่างไร มีความต่างกัน
อย่างไร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 20 หน้า :272 }