พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค [1. มัคคสังยุต] 13. เอสนาวรรค 4. ภวสูตร
อริยมรรคมีองค์ 8 อะไรบ้าง
คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
1. เจริญสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ
8. เจริญสัมมาสมาธิอันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไป
ในโวสสัคคะ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 นี้เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อ
ความสิ้นไป เพื่อละมานะทั้ง 3 ประการนี้แล
(พึงเพิ่มข้อความให้พิสดารเหมือนเอสนาสูตรฉะนั้น)
วิธาสูตรที่ 2 จบ
3. อาสวสูตร
ว่าด้วยอาสวะ
[163] ภิกษุทั้งหลาย อาสวะ 3 ประการนี้
อาสวะ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กามาสวะ (อาสวะคือกาม) 2. ภวาสวะ (อาสวะคือภพ)
3. อวิชชาสวะ (อาสวะคืออวิชชา)
อาสวะ 3 ประการนี้
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อ
ความสิ้นไป เพื่อละอาสวะทั้ง 3 ประการนี้ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 นี้ ฯลฯ
อาสวสูตรที่ 3 จบ
4. ภวสูตร
ว่าด้วยภพ
[164] ภิกษุทั้งหลาย ภพ 3 ประการนี้
ภพ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค [1. มัคคสังยุต] 13. เอสนาวรรค 6. ขีลสูตร
1. กามภพ (ภพที่เป็นกามาวจร) 2. รูปภพ (ภพที่เป็นรูปาวจร)
3. อรูปภพ (ภพที่เป็นอรูปาวจร)
ภพ 3 ประการนี้
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อ
ความสิ้นไป เพื่อละภพทั้ง 3 ประการนี้ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 นี้ ฯลฯ
ภวสูตรที่ 4 จบ
5. ทุกขตาสูตร
ว่าด้วยสภาวทุกข์
[165] ภิกษุทั้งหลาย สภาวทุกข์ 3 ประการนี้
สภาวทุกข์ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. สภาวทุกข์คือทุกข์ 2. สภาวทุกข์คือสังขาร
3. สภาวทุกข์คือความแปรผันไป
สภาวทุกข์ 3 ประการนี้
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อ
ความสิ้นไป เพื่อละสภาวทุกข์ทั้ง 3 ประการนี้ ฯลฯ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุพึงเจริญอริยมรรคมีองค์ 8 นี้ ฯลฯ
ทุกขตาสูตรที่ 5 จบ
6. ขีลสูตร
ว่าด้วยกิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู
[166] ภิกษุทั้งหลาย กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู 3 ประการนี้
กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปูคือราคะ
2. กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปูคือโทสะ
3. กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปูคือโมหะ
กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู 3 ประการนี้