พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค [4. อินทริยสังยุต]
5. ชราวรรค 2. อุณณาภพราหมณสูตร
พราหมณ์ ใจเป็นที่ยึดเหนี่ยวของอินทรีย์ 5 ประการนี้ที่มีอารมณ์ต่างกัน มี
โคจรต่างกัน ไม่เสวยอารมณ์อันเป็นโคจรของกันและกัน และใจย่อมเสวยอารมณ์
อันเป็นโคจรของอินทรีย์ 5 ประการนี้
ท่านพระโคดม อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของใจ
พราหมณ์ สติเป็นที่ยึดเหนี่ยวของใจ
ท่านพระโคดม อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของสติ
พราหมณ์ วิมุตติเป็นที่ยึดเหนี่ยวของสติ
ท่านพระโคดม อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของวิมุตติ
พราหมณ์ นิพพานเป็นที่ยึดเหนี่ยวของวิมุตติ
ท่านพระโคดม อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวของนิพพาน
พราหมณ์ ท่านล่วงเลยปัญหาไป ไม่สามารถกำหนดที่สุดแห่งปัญหาได้ ด้วยว่า
พรหมจรรย์ที่บุคคลอยู่จบแล้ว หยั่งลงสู่นิพพาน มีนิพพานเป็นเบื้องหน้า มี
นิพพานเป็นที่สุด
ลำดับนั้น อุณณาภพราหมณ์ชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว
ลุกจากที่นั่ง ถวายอภิวาท ทำประทักษิณแล้วจากไป
ครั้นอุณณาภพราหมณ์จากไปได้ไม่นาน พระผู้มีพระภาครับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลาย
มาตรัสว่า
ภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเรือนยอดหรือศาลาเรือนยอด มีหน้าต่างอยู่
ด้านทิศตะวันออก เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แสง (ดวงอาทิตย์) ส่องเข้าไปทางหน้าต่าง
จะปรากฏที่ไหน
ที่ฝาด้านทิศตะวันตก พระพุทธเจ้าข้า
ภิกษุทั้งหลาย อุปมานี้ฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้นเหมือนกัน ศรัทธาในตถาคตของ
อุณณาภพราหมณ์ตั้งมั่นหยั่งรากลงแล้วมั่นคง อันสมณะหรือพราหมณ์ เทวดาหรือมาร
พรหมหรือใคร ๆ ในโลกให้หวั่นไหวไม่ได้ ถ้าอุณณาภพราหมณ์พึงทำกาละในเวลา
นี้ไซร้ ย่อมไม่มีสังโยชน์ที่เป็นเครื่องประกอบให้อุณณาภพราหมณ์ต้องมาสู่โลกนี้อีก
อุณณาภพราหมณสูตรที่ 2 จบ