เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
2. ทุติยปัณณาสก์ 2. มิคชาลวรรค 5. สมิทธิทุกขปัญหาสูตร

ฆานะ คันธะ ฆานวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางฆานวิญญาณมีอยู่ในที่ใด
มารหรือการบัญญัติว่ามารก็มีอยู่ในที่นั้น
ชิวหา รส ชิวหาวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางชิวหาวิญญาณมีอยู่ในที่ใด
มารหรือการบัญญัติว่ามารก็มีอยู่ในที่นั้น
กาย โผฏฐัพพะ กายวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางกายวิญญาณมีอยู่ในที่ใด
มารหรือการบัญญัติว่ามารก็มีอยู่ในที่นั้น
มโน ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางมโนวิญญาณมีอยู่ในที่ใด
มารหรือการบัญญัติว่ามารก็มีอยู่ในที่นั้น
สมิทธิ ส่วนจักขุ รูป จักขุวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางจักขุวิญญาณไม่มี
ในที่ใดมารหรือการบัญญัติว่ามารก็ไม่มีในที่นั้น
โสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ ชิวหา รส ชิวหาวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทาง
ชิวหาวิญญาณไม่มีในที่ใด มารหรือการบัญญัติว่ามารก็ไม่มีในที่นั้น กาย ฯลฯ
มโน ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางมโนวิญญาณไม่มีในที่ใด
มารหรือการบัญญัติว่ามารก็ไม่มีในที่นั้น”

ปฐมสมิทธิมารปัญหาสูตรที่ 3 จบ

4. สมิทธิสัตตปัญหาสูตร
ด้วยพระสมิทธิทูลถามปัญหาเรื่องสัตว์

[66] “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ‘สัตว์ สัตว์’ ด้วยเหตุเพียง
เท่าไรหนอจึงชื่อว่าสัตว์หรือการบัญญัติว่าสัตว์” ฯลฯ

สมิทธิสัตตปัญหาสูตรที่ 4 จบ

5. สมิทธิทุกขปัญหาสูตร
ว่าด้วยพระสมิทธิทูลถามปัญหาเรื่องทุกข์

[67] “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ‘ทุกข์ ทุกข์’ ด้วยเหตุเพียง
เท่าไรหนอจึงชื่อว่าทุกข์หรือการบัญญัติว่าทุกข์” ฯลฯ

สมิทธิทุกขปัญหาสูตรที่ 5 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
2. ทุติยปัณณาสก์ 2. มิคชาลวรรค 7. อุปเสนอาสีวิสสูตร

6. สมิทธิโลกปัญหาสูตร
ว่าด้วยพระสมิทธิทูลถามปัญหาเรื่องโลก

[68] “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์ตรัสว่า ‘โลก โลก’ ด้วยเหตุเพียง
เท่าไรหนอจึงชื่อว่าโลก1หรือการบัญญัติว่าโลก”
“สมิทธิ จักขุ รูป จักขุวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางจักขุวิญญาณมีอยู่ในที่ใด
โลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็มีอยู่ในที่นั้น ฯลฯ
ชิวหา ฯลฯ มโน ธรรมารมณ์ มโนวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางมโนวิญญาณ
มีอยู่ในที่ใด โลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็มีอยู่ในที่นั้น
สมิทธิ ส่วนจักขุ รูป จักขุวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางจักขุวิญญาณไม่มี
ในที่ใด โลกหรือการบัญญัติว่าโลกก็ไม่มีในที่นั้น ฯลฯ ชิวหา ฯลฯ มโน ธรรมารมณ์
มโนวิญญาณ ธรรมที่พึงรู้แจ้งทางมโนวิญญาณไม่มีในที่ใด โลกหรือการบัญญัติว่า
โลกก็ไม่มีในที่นั้น”

สมิทธิโลกปัญหาสูตรที่ 6 จบ

7. อุปเสนอาสีวิสสูตร
ว่าด้วยพระอุปเสนะถูกพิษงู

[69] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรและท่านพระอุปเสนะอยู่ที่เงื้อมเขาชื่อสัปป-
โสณฑิกะ ป่าสีตวัน เขตกรุงราชคฤห์ สมัยนั้น งูตัวหนึ่งได้หล่นลงมาที่กายของท่าน
พระอุปเสนะ ครั้งนั้น ท่านเรียกภิกษุทั้งหลายมากล่าวว่า “มาเถิด ท่านทั้งหลาย
ช่วยกันยกกายของกระผมนี้ขึ้นเตียงแล้วหามออกไปข้างนอก ก่อนที่กายนี้จะเรี่ย
รายในที่นี้เหมือนกำแกลบ”
เมื่อท่านพระอุปเสนะกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรก็ได้กล่าวกับท่านว่า
“พวกเรายังไม่เห็นกายของท่านอุปเสนะเป็นอย่างอื่นหรืออินทรีย์ของท่านแปรผันไปเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านอุปเสนะยังพูดว่า ‘มาเถิด ท่านทั้งหลายช่วยกันยกกายของกระผม
นี้ขึ้นเตียงแล้วหามออกไปข้างนอก ก่อนที่กายนี้จะเรี่ยรายในที่นี้เหมือนกำแกลบ”