เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
15. สักกายปัญหาสูตร

“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละอุปาทานเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละอุปาทานเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละอุปาทานเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละอุปาทานเหล่านั้นดีจริงหนอ
และควรที่จะไม่ประมาท”

อุปาทานปัญหาสูตรที่ 12 จบ

13. ภวปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องภพ

[326] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘ภพ ภพ’
ภพมีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ ภพมี 3 ประการนี้ คือ
1. กามภพ (ภพที่เป็นกามาวจร)
2. รูปภพ (ภพที่เป็นรูปาวจร)
3. อรูปภพ (ภพที่เป็นอรูปาวจร)
ภพมี 3 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้ภพเหล่านั้นดีจริงหนอ
และควรที่จะไม่ประมาท”

ภวปัญหาสูตรที่ 13 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
15. สักกายปัญหาสูตร

14. ทุกขปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องทุกข์

[327] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘ทุกข์ ทุกข์’
ทุกข์มีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ สภาวทุกข์มี 3 ประการนี้ คือ
1. สภาวทุกข์คือทุกข์ 2. สภาวทุกข์คือสังขาร
3. สภาวทุกข์คือความแปรผันไป
สภาวทุกข์มี 3 อย่างเหล่านี้”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อกำหนดรู้สภาวทุกข์เหล่านั้นดี
จริงหนอ และควรที่จะไม่ประมาท”

ทุกขปัญหาสูตรที่ 14 จบ

15. สักกายปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องสักกายะ

[328] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘สักกายะ
(กายของตน) สักกายะ’ สักกายะคืออะไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ อุปาทานขันธ์ 5 นี้พระผู้มีพระภาค
ตรัสเรียกว่า สักกายะ ได้แก่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :345 }