เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต] 11. โอฆปัญหาสูตร

10. ตัณหาปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องตัณหา

[323] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘ตัณหา
ตัณหา’ ตัณหามีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ ตัณหามี 3 ประการนี้ คือ
1. กามตัณหา (ความทะยานอยากในกาม)
2. ภวตัณหา (ความทะยานอยากในภพ)
3. วิภวตัณหา (ความทะยานอยากในวิภพ)
ตัณหามี 3 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละตัณหาเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละตัณหาเหล่านั้นดีจริงหนอ
และควรที่จะไม่ประมาท”

ตัณหาปัญหาสูตรที่ 10 จบ

11. โอฆปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องโอฆะ

[324] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘โอฆะ โอฆะ’
โอฆะมีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ โอฆะมี 4 ประการนี้ คือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :342 }


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [4. ชัมพุขาทกสังยุต]
12. อุปาทานปัญหาสูตร

1. กาโมฆะ (โอฆะคือกาม) 2. ภโวฆะ (โอฆะคือภพ)
3. ทิฏโฐฆะ (โอฆะคือทิฏฐิ) 4. อวิชโชฆะ (โอฆะคืออวิชชา)
โอฆะมี 4 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละโอฆะเหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละโอฆะเหล่านั้นอยู่”
“มรรคเป็นอย่างไร ปฏิปทาเพื่อละโอฆะเหล่านั้นเป็นอย่างไร”
“ผู้มีอายุ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 นี้แล เพื่อละโอฆะเหล่านั้น ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลคือมรรค นี้คือปฏิปทาเพื่อละโอฆะเหล่านั้น”
“ท่านสารีบุตร มรรคดีจริงหนอ ปฏิปทาเพื่อละโอฆะเหล่านั้นดีจริงหนอ และ
ควรที่จะไม่ประมาท”

โอฆปัญหาสูตรที่ 11 จบ

12. อุปาทานปัญหาสูตร
ว่าด้วยปัญหาเรื่องอุปาทาน

[325] ชัมพุขาทกปริพาชกถามว่า “ท่านสารีบุตร ที่เรียกกันว่า ‘อุปาทาน
อุปาทาน’ อุปาทานมีเท่าไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ผู้มีอายุ อุปาทานมี 4 ประการนี้ คือ
1. กามุปาทาน (ความยึดมั่นในกาม)
2. ทิฏฐุปาทาน (ความยึดมั่นในทิฏฐิหรือทฤษฎี)
3. สีลัพพตุปาทาน (ความยึดมั่นในศีลและพรต)
4. อัตตวาทุปาทาน (ความยึดมั่นในวาทะว่าอัตตา)
อุปาทานมี 4 ประการนี้แล”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอุปาทานเหล่านั้นอยู่หรือ”
“มีมรรค มีปฏิปทาเพื่อละอุปาทานเหล่านั้นอยู่”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :343 }