เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
4. จตุตถปัณณาสก์ 2. สัฏฐิเปยยาลวรรค 4-6. ทุกขฉันทาทิสูตร

3. อัชฌัตตอนิจจฉันทราคสูตร
ว่าด้วยการละฉันทราคะในอายตนะภายในที่ไม่เที่ยง

[170] “ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้น
ก็อะไรเล่าชื่อว่าไม่เที่ยง
คือ จักขุไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในจักขุนั้น ฯลฯ ชิวหาไม่เที่ยง
เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในชิวหานั้น ฯลฯ มโนไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละ
ฉันทราคะในมโนนั้น
ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้น”

อัชฌัตตอนิจจฉันทราคสูตรที่ 3 จบ

4-6. ทุกขฉันทาทิสูตร
ว่าด้วยการละฉันทะเป็นต้นในอายตนะภายในที่เป็นทุกข์

[171-173] “ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ
พึงละราคะ พึงละฉันทราคะในสิ่งนั้น
ก็อะไรเล่าชื่อว่าเป็นทุกข์
คือ จักขุเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะใน
จักขุนั้น ฯลฯ
ชิวหาเป็นทุกข์ ฯลฯ
มโนเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะในมโนนั้น
ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละ
ฉันทราคะในสิ่งนั้น”

ทุกขฉันทาทิสูตรที่ 4-6 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
4. จตุตถปัณณาสก์ 2. สัฏฐิเปยยาลวรรค 10-12. พาหิรานิจจฉันทาทิสูตร

7-9. อนัตตฉันทาทิสูตร
ว่าด้วยการละฉันทะเป็นต้นในอายตนะภายในที่เป็นอนัตตา

[174-176] “ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ
พึงละราคะ พึงละฉันทราคะในสิ่งนั้น
ก็อะไรเล่าชื่อว่าเป็นอนัตตา
คือ จักขุเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะ
ในจักขุนั้น ฯลฯ
ฆานะเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะใน
ฆานะนั้น
ชิวหาเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะใน
ชิวหานั้น ฯลฯ
มโนเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะใน
มโนนั้น
ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละ
ฉันทราคะในสิ่งนั้น”

อนัตตฉันทาทิสูตรที่ 7-9 จบ

10-12. พาหิรานิจจฉันทาทิสูตร
ว่าด้วยการละฉันทะเป็นต้นในอายตนะภายนอกที่ไม่เที่ยง

[177-179] “ภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึง
ละราคะ พึงละฉันทราคะในสิ่งนั้น
ก็อะไรเล่าชื่อว่าไม่เที่ยง
คือ รูปไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทะ พึงละราคะ พึงละฉันทราคะในรูปนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 18 หน้า :204 }