พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค [1. สฬายตนสังยุต]
3. ตติยปัณณาสก์ 4. เทวทหวรรค 2. ขณสูตร
บุคคลจึงปรารภความเพียร1 ไม่ย่อหย่อน มีสติตั้งมั่น ไม่หลงลืม มีกายสงบ ไม่
กระสับกระส่าย มีจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ เราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทนี้ จึงกล่าว
ว่า ความไม่ประมาทในผัสสายตนะ 6 ประการ อันภิกษุเหล่านั้นควรทำแท้ ฯลฯ
รสที่พึงรู้แจ้งทางลิ้น น่ารื่นรมย์ใจบ้าง ไม่น่ารื่นรมย์ใจบ้างมีอยู่ รสเหล่านั้น
กระทบแล้ว ๆ ย่อมไม่ครอบงำจิตของบุคคลนั้นอยู่ เพราะไม่ครอบงำจิต บุคคลจึง
ปรารภความเพียร ไม่ย่อหย่อน มีสติตั้งมั่น ไม่หลงลืม มีกายสงบ ไม่กระสับ
กระส่าย มีจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ เราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทนี้ จึงกล่าวว่า
ความไม่ประมาทในผัสสายตนะ 6 ประการ อันภิกษุเหล่านั้นควรทำแท้ ฯลฯ
ธรรมารมณ์ที่พึงรู้แจ้งทางใจ น่ารื่นรมย์ใจบ้าง ไม่น่ารื่นรมย์ใจบ้างมีอยู่
ธรรมารมณ์นั้นกระทบแล้ว ๆ ย่อมไม่ครอบงำจิตของบุคคลนั้นอยู่ เพราะไม่ครอบงำจิต
บุคคลจึงปรารภความเพียร ไม่ย่อหย่อน มีสติตั้งมั่น ไม่หลงลืม มีกายสงบ ไม่
กระสับกระส่าย มีจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ เราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทนี้ จึงกล่าวว่า
ความไม่ประมาทในผัสสายตนะ 6 ประการ อันภิกษุเหล่านั้นควรทำแท้
เทวทหสูตรที่ 1 จบ
2. ขณสูตร
ว่าด้วยขณะ
[135] ภิกษุทั้งหลาย เป็นลาภของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายได้ดีแล้ว ที่เธอ
ทั้งหลายได้ขณะเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ เราเห็นนรก2 ชื่อว่าผัสสายตนิกะ 6 ขุม