เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [13. ฌานสังยุต]
46-49. โคจรมูลกอภินีหารสุตตาทิจตุกกะ

3. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ
และไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ
4. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในอารมณ์ในสมาธิ
และฉลาดในโคจรในสมาธิ
ในบุคคล 4 จำพวกนั้น บุคคลผู้ได้ฌาน ฯลฯ สูงสุด และยิ่งใหญ่ที่สุด

อารัมมณมูลกโคจรสุตตาทิปัญจกะที่ 41-45 จบ
(พึงขยายพระสูตรทั้ง 5 สูตร จนถึงอารัมมณมูลกสัปปายการีสูตรที่ 45
ให้เต็มเหมือนสูตรต้น ๆ อารัมมณมูลกะ จบ)

46-49. โคจรมูลกอภินีหารสุตตาทิจตุกกะ
ว่าด้วยพระสูตร 4 สูตร มีโคจรมูลกอภินีหารสูตรเป็นต้น

[707] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “...
1. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่
ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
2. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
แต่ไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ
3. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่ฉลาดในโคจรในสมาธิ
และไม่ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
4. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในโคจรในสมาธิ และ
ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
ภิกษุทั้งหลาย นมสดจากแม่โค นมส้มจากนมสด เนยข้นจากนมส้ม เนยใส
จากเนยข้น ยอดเนยใสจากเนยใส ยอดเนยใสชาวโลกถือว่าเป็นเลิศในบรรดานมสด
เป็นต้นนั้น แม้ฉันใด บุคคลผู้ได้ฌานที่ฉลาดในโคจรในสมาธิ และฉลาดใน
อภินิหารในสมาธิ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ สูงสุด และยิ่งใหญ่ที่สุด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 17 หน้า :403 }


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [13. ฌานสังยุต]
53-52. อภินีหารมูลกสัสกัจจสุตตาทิติกะ

[708] “...
1. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในโคจรสมาธิ แต่ไม่ทำ
โดยเคารพในสมาธิ ฯลฯ พึงเพิ่มข้อความที่เหลือให้พิสดาร
[709] “...
1. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่
ทำความเพียรต่อเนื่องในสมาธิ ฯลฯ
[710] “...
1. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในโคจรในสมาธิ แต่ไม่ทำ
สัปปายะในสมาธิ ฯลฯ

โคจรมูลกอภินีหารสุตตาทิจตุกกะที่ 46-49 จบ
(โคจรมูลกะ จบ)

50-52. อภินีหารมูลกสักกัจจสุตตาทิติกะ
ว่าด้วยพระสูตร 3 สูตร มีอภินีหารมูลกสักกัจจสูตรเป็นต้น

[711] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “...
1. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
แต่ไม่ทำโดยเคารพในสมาธิ
2. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ทำโดยเคารพในสมาธิ แต่ไม่
ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
3. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
และไม่ทำโดยเคารพในสมาธิ
4. บุคคลผู้ได้ฌานบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฉลาดในอภินิหารในสมาธิ
และทำโดยเคารพในสมาธิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 17 หน้า :404 }