พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [12. วัจฉโคตตสังยุต]
36-40. รูปอัปปัจจุปลักขณาทิสุตตปัญจกะ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า วัจฉะ เพราะความไม่แทงตลอดในรูป ฯลฯ
เพราะความไม่แทงตลอดในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอัปปฏิเวธาทิสุตตปัญจกะที่ 21-25 จบ
26-30. รูปอสัลลักขณาทิสุตตปัญจกะ
ว่าด้วยพระสูตร 5 สูตร มีรูปอสัลลักขณสูตรเป็นต้น
[632-636] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉะ เพราะความไม่กำหนดในรูป ฯลฯ เพราะ
ความไม่กำหนดในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอสัลลักขณาทิสุตตปัญจกะที่ 26-30 จบ
31-35. รูปอนุปลักขณาทิสุตตปัญจกะ
ว่าด้วยพระสูตร 5 สูตร มีรูปอนุปลักขณสูตรเป็นต้น
[637-641] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉะ เพราะความไม่เข้าไปกำหนดในรูป ฯลฯ
เพราะความไม่เข้าไปกำหนดในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอนุปลักขณาทิสุตตปัญจกะที่ 31-35 จบ
36-40. รูปอัปปัจจุปลักขณาทิสุตตปัญจกะ
ว่าด้วยพระสูตร 5 สูตร มีรูปอัปปัจจุปลักขณสูตรเป็นต้น
[642-646] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉะ เพราะความไม่เข้าไปกำหนดเฉพาะในรูป ฯลฯ
เพราะความไม่เข้าไปกำหนดเฉพาะในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอัปปัจจุปลักขณาทิสุตตปัญจกะที่ 36-40 จบ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [12. วัจฉโคตตสังยุต]
51-54. รูปอัปปัจจักขกัมมาทิสุตตจตุกกะ
41-45. รูปอสมเปกขณาทิสุตตปัญจกะ
ว่าด้วยพระสูตร 5 สูตร มีรูปอสมเปกขณสูตรเป็นต้น
[647-651] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉะ เพราะความไม่เพ่งในรูป ฯลฯ เพราะ
ความไม่เพ่งในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอสมเปกขณาทิสุตตปัญจกะที่ 41-45 จบ
46-50. รูปอัปปัจจุเปกขณาทิสุตตปัญจกะ
ว่าด้วยพระสูตร 5 สูตร มีรูปอัปปัจจุเปกขณสูตรเป็นต้น
[652-656] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า วัจฉะ เพราะความไม่เข้าไปเพ่งเฉพาะในรูป ฯลฯ
เพราะความไม่เข้าไปเพ่งเฉพาะในวิญญาณ ฯลฯ
รูปอัปปัจจุเปกขณาทิสุตตปัญจกะที่ 46-50 จบ
51-54. รูปอัปปัจจักขกัมมาทิสุตตจตุกกะ
ว่าด้วยพระสูตร 4 สูตร มีรูปอัปปัจจักขกัมมสูตรเป็นต้น
[657-660] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ครั้งนั้น วัจฉโคตรปริพาชกเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้สนทนา
ปราศรัยพอเป็นที่บันเทิงใจ พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร ได้ทูล
ถามพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรหนอ เป็นเหตุเป็น
ปัจจัยให้ทิฏฐิหลายอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นในโลกว่า โลกเที่ยงหรือโลกไม่เที่ยง ฯลฯ
หรือหลังจากตายแล้วตถาคตจะว่าเกิดอีกก็มิใช่ จะว่าไม่เกิดอีกก็มิใช่