เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [7. สารีปุตตสังยุต] 9. นิโรธสมาปัตติสูตร

กำหนดภาวะที่ไม่มีอะไร ๆ เป็นอารมณ์) โดยกำหนดว่า ‘ไม่มีอะไร‘1 ฯลฯ หรือ
ออกจากอากิญจัญญายตนฌานแล้ว”

อากิญจัญญายตนสูตรที่ 7 จบ

8. เนวสัญญานาสัญญายตนสูตร
ว่าด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน

[339] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตร ฯลฯ ได้ตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ วันนี้ ผมล่วง
วิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวงเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน (ฌาน
อันเข้าถึงภาวะมีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่)2 ฯลฯ หรือออกจากเนวสัญญา-
นาสัญญายตนฌานแล้ว”

เนวสัญญานาสัญญายตนสูตรที่ 8 จบ

9. นิโรธสมาปัตติสูตร
ว่าด้วยนิโรธสมาบัติ

[340] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้นในเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรครอง
อันตรวาสก ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงสาวัตถี กลับจากบิณฑบาต
ภายหลังฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว เข้าไปยังป่าอันธวันเพื่อพักกลางวัน ถึงป่าอันธวัน
แล้วนั่งพักอยู่ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง
ต่อมาเวลาเย็น ท่านพระสารีบุตรออกจากที่หลีกเร้นแล้วเข้าไปยังพระเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านพระอานนท์ได้เห็นท่านพระสารีบุตรกำลังเดิน
มาแต่ไกลจึงถามว่า “ท่านสารีบุตร อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก สีหน้าก็บริสุทธิ์
ผุดผ่อง วันนี้ ท่านสารีบุตรอยู่ด้วยวิหารธรรมอะไร”


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [7. สารีปุตตสังยุต] 10. สุจิมุขีสูตร

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ วันนี้ ผมล่วงเนวสัญญานาสัญญา-
ยตนฌานโดยประการทั้งปวงเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ (สมาบัติที่ดับสัญญาและเวทนา)
อยู่ ผมนั้นไม่ได้คิดว่า ‘เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ หรือเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว
หรือว่าออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว”
อันที่จริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยออกได้
นานแล้ว ฉะนั้น ท่านจึงไม่คิดว่า “เราเข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ หรือเข้าสัญญา-
เวทยิตนิโรธแล้ว หรือออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธแล้ว”

นิโรธสมาปัตติสูตรที่ 9 จบ

10. สุจิมุขีสูตร
ว่าด้วยสุจิมุขีปริพาชิกา

[341] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถานที่ให้
เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้นในเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรครองอันตรวาสก
ถือบาตรและจีวรเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงราชคฤห์ อาศัยเชิงฝาแห่งหนึ่งฉันบิณฑบาต
นั้น ครั้งนั้น ปริพาชิกาชื่อสุจิมุขี เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ แล้วได้ถามว่า
“สมณะ ทำไมท่านจึงก้มหน้าฉันเล่า”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “น้องหญิง เรามิได้ก้มหน้าฉัน”
“สมณะ ถ้าอย่างนั้น ท่านเงยหน้าฉันหรือ”
“น้องหญิง เรามิได้เงยหน้าฉัน”
“สมณะ ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศใหญ่ฉันหรือ”
“น้องหญิง เรามิได้มองดูทิศใหญ่ฉัน”
“สมณะ ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศน้อยฉันหรือ”
“น้องหญิง เรามิได้มองดูทิศน้อยฉัน”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 17 หน้า :347 }