เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [7. สารีปุตตสังยุต] 3. ปีติสูตร

2. อวิตักกสูตร
ว่าด้วยทุติยฌานไม่มีวิตก

[333] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระอานนท์ได้เห็น ฯลฯ จึงถามว่า “ท่านสารีบุตร อินทรีย์ของท่าน
ผ่องใสยิ่งนัก สีหน้าก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง วันนี้ ท่านสารีบุตรอยู่ด้วยวิหารธรรมอะไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ เพราะวิตกวิจารสงบระงับไป วันนี้
ผมเข้าทุติยฌานมีความผ่องใสในจิตภายใน มีภาวะที่จิตเป็นหนึ่งผุดขึ้น1 ไม่มีวิตก
ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขเกิดจากสมาธิอยู่‘2 ผมนั้นไม่ได้คิดว่า ‘เราเข้าทุติยฌานอยู่
หรือเข้าทุติยฌานแล้ว หรือออกจากทุติยฌานแล้ว”
อันที่จริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยออกได้
นานแล้ว ฉะนั้น ท่านจึงไม่คิดว่า “เราเข้าทุติยฌานอยู่ หรือเข้าทุติยฌานแล้ว
หรือออกจากทุติยฌานแล้ว”

อวิตักกสูตรที่ 2 จบ

3. ปีติสูตร
ว่าด้วยตติยฌานที่มีปีติ

[334] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระอานนท์ได้เห็น ฯลฯ จึงถามว่า “ท่านสารีบุตร อินทรีย์ของท่าน
ผ่องใสยิ่งนัก สีหน้าบริสุทธิ์ผุดผ่อง วันนี้ ท่านสารีบุตรอยู่ด้วยวิหารธรรมอะไร”


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [7. สารีปุตตสังยุต] 4. อุเปกขาสูตร

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ เพราะปีติจางคลายไป วันนี้ ผมมี
อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ และเสวยสุขด้วยนามกายอยู่ เข้าตติยฌานที่พระอริยะ
ทั้งหลายสรรเสริญว่า ‘ผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข‘1 ผมนั้นไม่ได้คิดว่า ‘เราเข้า
ตติยฌานอยู่ หรือเข้าตติยฌานแล้ว หรือออกจากตติยฌานแล้ว”
อันที่จริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยออกได้
นานแล้ว ฉะนั้น ท่านจึงไม่คิดว่า “เราเข้าตติยฌานอยู่ หรือเข้าตติยฌานแล้ว
หรือออกจากตติยฌานแล้ว”

ปีติสูตรที่ 3 จบ

4. อุเปกขาสูตร
ว่าด้วยจตุตถฌานที่มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา

[335] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
ท่านพระอานนท์ได้เห็น ฯลฯ จึงถามว่า “ท่านสารีบุตร อินทรีย์ของท่าน
ผ่องใสยิ่งนัก สีหน้าก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง วันนี้ ท่านสารีบุตรอยู่ด้วยวิหารธรรมอะไร”
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะ
โสมนัสและโทมนัสดับไปก่อนแล้ว วันนี้ ผมเข้าจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข
มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่2 ผมนั้นไม่ได้คิดว่า ‘เราเข้าจตุตถฌานอยู่ หรือเข้า
จตุตถฌานแล้ว หรือออกจากจตุตถฌานแล้ว”
อันที่จริง ท่านพระสารีบุตรถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยออกได้
นานแล้ว ฉะนั้น ท่านจึงไม่คิดว่า “เราเข้าจตุตถฌานอยู่ หรือเข้าจตุตถฌานแล้ว
หรือออกจากจตุตถฌานแล้ว”

อุเปกขาสูตรที่ 4 จบ