พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [6. กิเลสสังยุต] 3. วิญญาณสูตร
ฉันทราคะในสัททะ ฯลฯ
ฉันทราคะในคันธะ ...
ฉันทราคะในรส ...
ฉันทราคะในโผฏฐัพพะ ...
ฉันทราคะในธรรมารมณ์ นี้เป็นความเศร้าหมองแห่งจิต
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด ภิกษุละความเศร้าหมองแห่งจิตในฐานะ 6 ประการนี้ได้
เมื่อนั้น จิตของเธอที่น้อมไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน
ปรากฏในธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันรู้ยิ่ง
รูปสูตรที่ 2 จบ
3. วิญญาณสูตร
ว่าด้วยวิญญาณ
[324] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ฉันทราคะในจักขุวิญญาณ นี้เป็น
ความเศร้าหมองแห่งจิต
ฉันทราคะในโสตวิญญาณ ฯลฯ
ฉันทราคะในฆานวิญญาณ ...
ฉันทราคะในชิวหาวิญญาณ ...
ฉันทราคะในกายวิญญาณ ...
ฉันทราคะในมโนวิญญาณ นี้เป็นความเศร้าหมองแห่งจิต
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด ภิกษุละความเศร้าหมองแห่งจิตในฐานะ 6 ประการนี้ได้
เมื่อนั้น จิตของเธอที่น้อมไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน
ปรากฏในธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันรู้ยิ่ง
วิญญาณสูตรที่ 3 จบ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [6. กิเลสสังยุต] 5. สัมผัสสชาสูตร
4. สัมผัสสสูตร
ว่าด้วยสัมผัส
[325] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ฉันทราคะในจักขุสัมผัส นี้เป็น
ความเศร้าหมองแห่งจิต
ฉันทราคะในโสตสัมผัส ฯลฯ
ฉันทราคะในฆานสัมผัส ...
ฉันทราคะในชิวหาสัมผัส ...
ฉันทราคะในกายสัมผัส ...
ฉันทราคะในมโนสัมผัส นี้เป็นความเศร้าหมองแห่งจิต
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด ภิกษุ ฯลฯ ในธรรมที่ควรทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันรู้ยิ่ง
สัมผัสสสูตรที่ 4 จบ
5. สัมผัสสชาสูตร
ว่าด้วยสัมผัสสชาเวทนา
[326] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ฉันทราคะในจักขุสัมผัสสชาเวทนา
นี้เป็นความเศร้าหมองแห่งจิต
ฉันทราคะในโสตสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ
ฉันทราคะในฆานสัมผัสสชาเวทนา ...
ฉันทราคะในชิวหาสัมผัสสชาเวทนา ...
ฉันทราคะในกายสัมผัสสชาเวทนา ...