เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [3. ทิฏฐิสังยุต]
2. ทุติยคมนวรรค 24. เอกันตทุกขีสูตร

21. รูปีจอรูปีจอัตตาสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่มีรูปและไม่มีรูป

[244] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “หลังจากตายแล้ว อัตตาทั้งที่มีรูปและไม่มีรูปไม่
สลายไป ฯลฯ

รูปีจอรูปีจอัตตาสูตรที่ 21 จบ

22. เนวรูปีนารูปีอัตตาสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่มีรูปก็มิใช่ ไม่มีรูปก็มิใช่

[245] “หลังจากตายแล้ว อัตตาจะว่ามีรูปก็มิใช่ จะว่าไม่มีรูปก็มิใช่ไม่
สลายไป ...

เนวรูปีนารูปีอัตตาสูตรที่ 22 จบ

23. เอกันตสุขีสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่มีสุขโดยส่วนเดียว

[246] “หลังจากตายแล้ว อัตตาที่มีสุขโดยส่วนเดียวไม่สลายไป ...

เอกันตสุขีสูตรที่ 23 จบ

24. เอกันตทุกขีสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่มีทุกข์โดยส่วนเดียว

[247] “หลังจากตายแล้ว อัตตาที่มีทุกข์โดยส่วนเดียวไม่สลายไป ...

เอกันตทุกขีสูตรที่ 24 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค [3. ทิฏฐิสังยุต]
2. ทุติยคมนวรรค 26. อทุกขมสุขีสูตร

25. สุขทุกขีสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่มีทั้งสุขและทุกข์

[248] “หลังจากตายแล้ว อัตตาที่มีทั้งสุขและทุกข์ไม่สลายไป ...

สุขทุกขีสูตรที่ 25 จบ

26. อทุกขมสุขีสูตร
ว่าด้วยทิฏฐิว่าอัตตาที่ไม่มีทั้งทุกข์และสุข

[249] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า “หลังจากตายแล้ว อัตตาที่มีทั้งสุข
และทุกข์ไม่สลายไปหรือ”
ภิกษุทั้งหลายทูลตอบว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรมของข้าพระองค์
ทั้งหลาย มีพระผู้มีพระภาคเป็นหลัก ฯลฯ
“ภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีรูป เพราะถือมั่นรูป เพราะยึดมั่นรูป ทิฏฐิอย่างนี้จึง
เกิดขึ้นว่า ‘หลังจากตายแล้ว อัตตาที่ไม่มีทั้งทุกข์และสุขไม่สลายไป’
เมื่อมีเวทนา ฯลฯ
เมื่อมีสัญญา ...
เมื่อมีสังขาร ...
เมื่อมีวิญญาณ เพราะถือมั่นวิญญาณ เพราะยึดมั่นวิญญาณ ทิฏฐิอย่างนี้
จึงเกิดขึ้นว่า ‘หลังจากตายแล้ว อัตตาที่ไม่มีทั้งทุกข์และสุขไม่สลายไป’
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร รูปเที่ยงหรือไม่
เที่ยง”
“ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า”
“ฯลฯ มีความแปรผันเป็นธรรมดา เพราะไม่ถือมั่นสิ่งนั้น ทิฏฐิอย่างนี้จะพึง
เกิดขึ้นบ้างหรือว่า ‘หลังจากตายแล้ว อัตตาที่ไม่มีทั้งทุกข์และสุขไม่สลายไป”
“ไม่ใช่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 17 หน้า :310 }