เมนู

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [9. วนสังยุต] 11. อโยนิโสมนสิการสูตร

กับบุคคลผู้ปราศจากราคะ
และเพราะตั้งแต่เรามาอยู่ร่วมกับบุคคลผู้ปราศจากราคะ
สัตบุรุษทั้งหลายรู้ทั่วถึงรูป เสียง กลิ่น รส
และโผฏฐัพพะ อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว
จึงได้กล่าวถึงการปล่อยวางอารมณ์นั้น ๆ

สัชฌายสูตรที่ 10 จบ

11. อโยนิโสมนสิการสูตร
ว่าด้วยการมนสิการโดยไม่แยบคาย

[231] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ ณ ราวป่าแห่งหนึ่ง แคว้นโกศล สมัยนั้น
ท่านพักผ่อนอยู่ในที่พักกลางวัน ตรึกถึงอกุศลวิตกอันเลวทราม คือ กามวิตก
(ความตรึกเกี่ยวกับกาม) พยาบาทวิตก(ความตรึกเกี่ยวกับพยาบาท) และวิหิงสาวิตก
(ความตรึกเกี่ยวกับวิหิงสา) ครั้งนั้น เทวดาผู้สิงสถิตอยู่ในราวป่านั้นมีความ
อนุเคราะห์หวังดีต่อภิกษุนั้น ประสงค์จะให้ภิกษุนั้นสลดใจ จึงเข้าไปหาภิกษุนั้นถึง
ที่อยู่แล้วได้กล่าวกับภิกษุนั้นด้วยคาถาว่า
ท่านถูกวิตกเกาะกิน เพราะมนสิการโดยไม่แยบคาย
ท่านจงละการมนสิการโดยไม่แยบคาย
และจงใคร่ครวญโดยแยบคายเถิด
ท่านปรารภพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์
และศีลของตนแล้ว จะบรรลุความปราโมทย์ ปีติ
และความสุขโดยไม่ต้องสงสัย
แต่นั้น ท่านมากไปด้วยความปราโมทย์
จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ลำดับนั้น ภิกษุนั้นถูกเทวดาทำให้สลดใจ เกิดความสลดใจแล้ว

อโยนิโสมนสิการสูตรที่ 11 จบ


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [9. วนสังยุต] 13. ปากดินทริยสูตร

12. มัชฌัณหิกสูตร
ว่าด้วยเวลาเที่ยงวัน

[232] สมัยหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ ณ ราวป่าแห่งหนึ่ง แคว้นโกศล ครั้งนั้น
เทวดาผู้สิงสถิตอยู่ในราวป่านั้น เข้าไปหาภิกษุนั้นถึงที่อยู่แล้วได้กล่าวคาถานี้ใน
สำนักของภิกษุนั้นว่า
เมื่อฝูงนกพากันพักร้อนอยู่ในเวลาเที่ยงวัน
ป่าใหญ่ส่งเสียงประหนึ่งว่าครวญครางอยู่
เสียงครวญครางแห่งป่าใหญ่นั้น
ปรากฏเป็นสิ่งที่น่ากลัวแก่ข้าพเจ้า1
ภิกษุนั้นกล่าวคาถานี้ว่า
เมื่อฝูงนกพากันพักร้อนอยู่ในเวลาเที่ยงวัน
ป่าใหญ่ส่งเสียงประหนึ่งว่าครวญครางอยู่
เสียงครวญครางแห่งป่าใหญ่นั้น
ปรากฏเป็นสิ่งที่น่ายินดีแก่เรา1

มัชฌัณหิกสูตรที่ 12 จบ

13. ปากตินทริยสูตร
ว่าด้วยภิกษุผู้ไม่สำรวมอินทรีย์

[233] สมัยหนึ่ง ภิกษุจำนวนมากอยู่ ณ ราวป่าแห่งหนึ่ง แคว้นโกศล
เป็นผู้ฟุ้งซ่าน ถือตัว โลเล ปากกล้า พูดจาพร่ำเพรื่อ หลงลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ
มีจิตไม่ตั้งมั่น มีจิตกวัดแกว่ง ไม่สำรวมอินทรีย์ ครั้งนั้น เทวดาผู้สิงสถิตอยู่ในราว
ป่านั้น มีความอนุเคราะห์หวังดีต่อภิกษุเหล่านั้น ประสงค์จะให้ภิกษุเหล่านั้นสลดใจ
จึงเข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นถึงที่อยู่ ได้กล่าวกับภิกษุเหล่านั้นด้วยคาถาว่า