พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [3. โกสลสังยุต]
3. ตติยวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค
(พลม้า) พลรถ พลเดินเท้า
และไม่อาจจะเอาชนะแม้ด้วยมนตร์หรือด้วยทรัพย์
เพราะฉะนั้น บุคคลผู้เป็นบัณฑิต มีปัญญา
เมื่อเห็นประโยชน์ตน พึงตั้งศรัทธาไว้ในพระพุทธเจ้า
พระธรรม และพระสงฆ์
ผู้ใดมีปกติประพฤติธรรมทางกาย ทางวาจา ทางใจ
บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญผู้นั้นในโลกนี้โดยแท้
ผู้นั้นละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์
ปัพพโตปมสูตรที่ 5 จบ
วรรคที่ 3 จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. ปุคคลสูตร 2. อัยยิกาสูตร
3. โลกสูตร 4. อิสสัตถสูตร
5. ปัพพโตปมสูตร
พระสูตรว่าด้วยกุศล 5 สูตรนี้ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐทรงแสดงไว้แล้ว
โกสลสังยุต จบบริบูรณ์
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค [4. มารสังยุต] 1. ปฐมวรรค 1. ตโปกัมมสูตร
4. มารสังยุต
1. ปฐมวรรค
หมวดที่ 1
1. ตโปกัมมสูตร
ว่าด้วยการบำเพ็ญตบะ
[137] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคแรกตรัสรู้ประทับอยู่ที่ต้นอชปาลนิโครธใกล้ฝั่ง
แม้น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลา ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงหลีกเร้นอยู่ในที่สงัด
เกิดความรำพึงอย่างนี้ว่า เราเป็นผู้พ้นแล้วหนอจากทุกกรกิริยานั้น เราเป็นผู้
พ้นดีแล้วหนอจากทุกกรกิริยาอันไม่ประกอบด้วยประโยชน์นั้น เราเป็นผู้บรรลุโพธิ-
ญาณแล้ว
ครั้งนั้น มารผู้มีบาปได้ทราบความรำพึงของพระผู้มีพระภาคด้วยใจ จึงเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
มาณพทั้งหลายบริสุทธิ์ได้
ด้วยการบำเพ็ญตบะใด
ท่านหลีกจากการบำเพ็ญตบะนั้นแล้ว
เป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ สำคัญว่าเป็นผู้บริสุทธิ์
ท่านพลาดจากทางแห่งความบริสุทธิ์แล้ว
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า นี้คือมารผู้มีบาป จึงตรัสกับมาร
ผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
เรารู้แล้วว่าตบะอื่นๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์