พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [1. เทวทหวรรค] 9. มหาปุณณมสูตร
9. มหาปุณณมสูตร
ว่าด้วยพระธรรมเทศนาในคืนดวงจันทร์เต็มดวง สูตรใหญ่
[85] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมาตา ใน
บุพพาราม เขตกรุงสาวัตถี สมัยนั้น ในวันอุโบสถขึ้น 15 ค่ำ คืนดวงจันทร์
เต็มดวง พระผู้มีพระภาคทรงมีภิกษุสงฆ์แวดล้อม ประทับนั่ง ณ ที่แจ้ง ครั้งนั้น
ภิกษุรูปหนึ่งลุกจากอาสนะ ห่มจีวรเฉวียงบ่า ประนมมือไปทางที่พระผู้มีพระภาค
ประทับอยู่ ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอทูลถามเหตุอย่างหนึ่งกับพระองค์ ถ้า
พระผู้มีพระภาคทรงประทานวโรกาส ที่จะตอบปัญหาแก่ข้าพระองค์
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภิกษุ ถ้าเช่นนั้น เธอจงนั่งบนอาสนะของตน
แล้วถามปัญหาที่เธอต้องการจะถามเถิด
อุปาทานขันธ์ 5 ประการ
[86] ลำดับนั้น ภิกษุนั้นนั่งบนอาสนะของตนแล้วได้ทูลถามปัญหากับ
พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ใช่ไหม คือ
1. รูปูปาทานขันธ์ (อุปาทานขันธ์คือรูป)
2. เวทนูปาทานขันธ์ (อุปาทานขันธ์คือเวทนา)
3. สัญญูปาทานขันธ์ (อุปาทานขันธ์คือสัญญา)
4. สังขารูปาทานขันธ์ (อุปาทานขันธ์คือสังขาร)
5. วิญญาณูปาทานขันธ์ (อุปาทานขันธ์คือวิญญาณ)
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภิกษุ อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ คือ
1. รูปูปาทานขันธ์ 2. เวทนูปาทานขันธ์
3. สัญญูปาทานขันธ์ 4. สังขารูปาทานขันธ์
5. วิญญาณูปาทานขันธ์
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [1. เทวทหวรรค] 9. มหาปุณณมสูตร
มูลเหตุแห่งอุปาทานขันธ์ 5 ประการ
ภิกษุนั้นชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคว่า สาธุ พระพุทธเจ้าข้า
แล้วได้ทูลถามปัญหายิ่งขึ้นไปว่า อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ มีอะไรเป็นมูลเหตุ
พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภิกษุ อุปาทานขันธ์ 5 ประการนี้ มีฉันทะ
เป็นมูลเหตุ1
อุปาทานกับอุปาทานขันธ์ 5 ประการนั้นเป็นอย่างเดียวกัน หรืออุปาทาน
เป็นอย่างอื่นจากอุปาทานขันธ์ 5 ประการ พระพุทธเจ้าข้า
ภิกษุ อุปาทานกับอุปาทานขันธ์ 5 ประการนั้นเป็นอย่างเดียวกันก็มิใช่
ทั้งอุปาทานขันธ์เป็นอย่างอื่นจากอุปาทานขันธ์ 5 ประการก็มิใช่ แต่ฉันทราคะใน
อุปาทานขันธ์ 5 ประการนั้น เป็นตัวอุปาทาน
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ฉันทราคะต่าง ๆ ในอุปาทานขันธ์ 5 ประการ
จะพึงมีได้หรือ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า มีได้ ภิกษุ แล้วได้ตรัสต่อไปว่า ภิกษุ
บุคคลบางคนในโลกนี้มีความปรารถนาอย่างนี้ว่า ในอนาคต ขอเราพึงมีรูปอย่างนี้
มีเวทนาอย่างนี้ มีสัญญาอย่างนี้ มีสังขารอย่างนี้ มีวิญญาณอย่างนี้
ภิกษุ ฉันทราคะต่าง ๆ ในอุปาทานขันธ์ 5 ประการ พึงมีได้ ด้วยอาการ
อย่างนี้
เหตุที่ชื่อว่าขันธ์
ภิกษุนั้นได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรขันธ์จึงชื่อ
ว่าขันธ์