เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [1. เทวทหวรรค] 8. โคปกโมคคัลลานสูตร

ก็ตอบว่า ‘พราหมณ์ ไม่มีภิกษุสักรูปหนึ่งเลยที่สงฆ์สมมติ คือภิกษุที่ภิกษุผู้เป็น
เถระจำนวนมากแต่งตั้งไว้ว่า ‘เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จล่วงลับไป ภิกษุรูปนี้
จักเป็นที่พึ่งของเราทั้งหลาย’ ซึ่งอาตมภาพทั้งหลายพึงเข้าไปหาได้ในบัดนี้’
และเมื่อกระผมถามท่านว่า ‘ก็เมื่อไม่มีที่พึ่งอย่างนี้ อะไรเล่าเป็นเหตุแห่ง
ความสามัคคีโดยธรรม’ ท่านก็ตอบว่า ‘พราหมณ์ อาตมภาพทั้งหลาย
มิใช่เป็นคนไม่มีที่พึ่ง อาตมภาพทั้งหลายเป็นคนมีที่พึ่ง คือมีธรรมเป็นที่พึ่ง’
ท่านพระอานนท์ ก็คำที่พระคุณเจ้ากล่าวมาแล้วนี้ กระผมจะพึงเข้าใจเนื้อ
ความได้อย่างไร”
[81] “มีอยู่ พราหมณ์ พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้ทรงเห็น เป็นพระอรหันต-
สัมมาสัมพุทธจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัติสิกขาบท ทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ทุกวันอุโบสถ อาตมภาพเท่าที่มีอยู่นั้น จะเข้าไปอาศัยคามเขตแห่งหนึ่ง
อยู่ ทุกรูปจะประชุมร่วมกัน แล้วเชิญภิกษุรูปที่สวดปาติโมกข์ได้ให้สวด ถ้าขณะ
สวดปาติโมกข์ มีภิกษุต้องอาบัติ มีโทษที่ล่วงละเมิดอยู่ อาตมภาพทั้งหลายจะให้
เธอทำตามธรรม ตามพระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคทรงพร่ำสอนไว้
ได้ยินว่า ภิกษุผู้เจริญทั้งหลายมิได้ใช้ให้อาตมภาพทั้งหลายทำ ธรรมใช้ให้
อาตมภาพทั้งหลายทำ”
“ท่านพระอานนท์ มีภิกษุสักรูปหนึ่งไหมที่พระคุณเจ้าทั้งหลายสักการะ
เคารพ นับถือ บูชา แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ได้ในบัดนี้”
“มีอยู่ ภิกษุรูปหนึ่งที่อาตมภาพทั้งหลายสักการะ เคารพ นับถือ บูชา
แล้วเข้าไปอาศัยอยู่ได้ในบัดนี้”
“ท่านพระอานนท์ เมื่อกระผมถามท่านว่า ‘มีภิกษุสักรูปหนึ่งไหมที่ท่านพระ
โคดมพระองค์นั้นทรงแต่งตั้งไว้ว่า ‘เมื่อเราล่วงลับไป ภิกษุรูปนี้จักเป็นที่พึ่งของ
ท่านทั้งหลาย’ ซึ่งพระคุณเจ้าพึงเข้าไปหาได้ในบัดนี้’ ท่านก็ตอบว่า ‘พราหมณ์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 14 หน้า :88 }