เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [4. วิภังควรรค] 7. สฬายตนวิภังคสูตร

2. โทมนัสย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทราบความที่เสียงทั้งหลายนั่นแล ...
3. โทมนัสย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทราบความที่กลิ่นทั้งหลายนั่นแล ...
4. โทมนัสย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทราบความที่รสทั้งหลายนั่นแล ...
5. โทมนัสย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทราบความที่โผฏฐัพพะทั้งหลาย
นั่นแล ...
6. โทมนัสย่อมเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ทราบความที่ธรรมารมณ์ทั้งหลายนั่น
แลไม่เที่ยง เห็นความแปรผัน ความคลายกำหนัด และความดับ
นั่นตามความเป็นจริง ด้วยปัญญาอันชอบอย่างนี้ว่า ‘ธรรมารมณ์
ในกาลก่อนและในบัดนี้ทั้งหมดนั้น ล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มี
ความแปรผันเป็นธรรมดา’ แล้วตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์
ว่า ‘ในกาลไร เราจักบรรลุอายตนะที่พระอริยะทั้งหลายได้บรรลุ
อยู่ในบัดนี้’ เพราะความปรารถนาเป็นปัจจัย โทมนัสจึงเกิดขึ้นแก่
เขาผู้ตั้งความปรารถนาในอนุตตรวิโมกข์ด้วยประการฉะนี้ โทมนัส
เช่นนี้เราเรียกว่า โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ
โทมนัสอาศัยเนกขัมมะ 6 ประการนี้
[308] ในสัตตบท 36 นั้น อุเบกขาอาศัยเรือน1 6 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. เพราะเห็นรูปทางตา อุเบกขา2จึงเกิดขึ้นแก่ปุถุชน ผู้โง่เขลา งมงาย
ผู้ยังไม่ชนะกิเลส ยังไม่ชนะวิบาก ผู้ไม่เห็นโทษ ไม่ได้สดับ
เป็นคนกิเลสหนา อุเบกขาเช่นนี้ยังล่วงพ้นรูปไม่ได้ เพราะฉะนั้น
เราจึงเรียกอุเบกขานั้นว่า อุเบกขาอาศัยเรือน
2. เพราะฟังเสียงทางหู ...
3. เพราะดมกลิ่นทางจมูก ...
4. เพราะลิ้มรสทางลิ้น ...