เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [3. สุญญตวรรค]
4. พักกุลัตเถรัจฉริยัพภูตสูตร

“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้สึกเลยว่ามีกามสัญญาเคยเกิดขึ้นตลอดเวลา 80 พรรษานี้
ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่าเป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏ ของท่านพักกุละ” (1)
“ท่านผู้มีอายุ เมื่อเราบวชมาตลอดเวลา 80 พรรษา เราไม่รู้สึกเลยว่า
พยาบาทสัญญา ... วิหิงสาสัญญาเคยเกิดขึ้น”
“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้สึกเลยว่าพยาบาทสัญญา ... วิหิงสาสัญญาเคยเกิด
ขึ้นตลอดเวลา 80 พรรษานี้ ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่าเป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคย
ปรากฏ ของท่านพักกุละ” (2-3)
“ท่านผู้มีอายุ เมื่อเราบวชมาตลอดเวลา 80 พรรษา เราไม่รู้สึกเลยว่า
กามวิตกเคยเกิดขึ้น”
“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้สึกเลยว่ากามวิตกเคยเกิดขึ้น ตลอดเวลา 80 พรรษานี้
ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่าเป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏ ของท่านพักกุละ” (4)
“ท่านผู้มีอายุ เมื่อเราบวชมาตลอดเวลา 80 พรรษา เราไม่รู้สึกเลยว่ามี
พยาบาทวิตก ... วิหิงสาวิตกเคยเกิดขึ้น”
“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้สึกเลยว่าวิหิงสาวิตกเคยเกิดขึ้น ตลอดเวลา 80 พรรษานี้
ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่าเป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏ ของท่านพักกุละ” (5-6)
[211] “ท่านผู้มีอายุ เมื่อเราบวชมาตลอดเวลา 80 พรรษา เราไม่รู้สึก
ยินดีคหบดีจีวรเลย”
“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้สึกยินดีคหบดีจีวรเลย ตลอดเวลา 80 พรรษานี้
ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่าเป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏ ของท่านพักกุละ” (7)
“ท่านผู้มีอายุ เมื่อเราบวชมาตลอดเวลา 80 พรรษา เราไม่รู้จักการใช้มีด
ตัดผ้าเป็นจีวรเลย ...” (8)
“... เราไม่รู้จักการใช้เข็มเย็บจีวรเลย
... ไม่รู้จักการใช้เครื่องย้อมย้อมจีวรเลย
... ไม่รู้จักการเย็บจีวรที่ไม้สดึงเลย
... ไม่รู้จักการจัดทำจีวรของเพื่อนพรหมจารีเลย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 14 หน้า :243 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ [3. สุญญตวรรค]
4. พักกุลัตเถรัจฉริยัพภูตสูตร

... ไม่รู้สึกยินดีกับกิจนิมนต์เลย
... ไม่รู้สึกเลยว่าเคยเกิดความคิดอย่างนี้ว่า ‘ขอใคร ๆ พึงนิมนต์เราเถิด’
... ไม่รู้จักการนั่งในละแวกบ้านเลย
... ไม่รู้จักการฉันในละแวกบ้านเลย
... ไม่รู้จักการถือนิมิตแห่งมาตุคามโดยอนุพยัญชนะ1เลย
... ไม่รู้จักการแสดงธรรมแก่มาตุคามโดยที่สุดแม้คาถาสี่บาทเลย
... ไม่รู้จักการเข้าไปสู่สำนักของภิกษุณีเลย
... ไม่รู้จักการแสดงธรรมแก่ภิกษุณีเลย
... ไม่รู้จักการแสดงธรรมแก่สิกขมานาเลย
... ไม่รู้จักการแสดงธรรมแก่สามเณรีเลย
... ไม่รู้จักการให้บรรพชาเลย
... ไม่รู้จักการให้อุปสมบทเลย
... ไม่รู้จักการให้นิสัยเลย
... ไม่รู้จักการใช้สามเณรเป็นอุปัฏฐากเลย
... ไม่รู้จักการสรงน้ำในเรือนไฟเลย
... ไม่รู้จักการใช้จุรณสรงน้ำเลย
... ไม่รู้จักยินดีการนวดเฟ้นตัวของเพื่อนพรหมจารีเลย
... ไม่รู้จักอาพาธอันเคยเกิดขึ้นแล้วโดยที่สุดแม้ชั่วขณะรีดนมโคเสร็จเลย
... ไม่รู้จักฉันยาโดยที่สุดแม้เท่าชิ้นสมอเลย
... ไม่รู้จักการนั่งพิงพนักพิงเลย
... ไม่รู้จักการนอนเลย”
“ข้อที่ท่านพักกุละไม่รู้จักการนอนตลอดเวลา 80 พรรษานี้ ข้าพเจ้าจะจำไว้ว่า
เป็นธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏ ของท่านพักกุละ” (9-33)