พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [1. คหปติวรรค] 6. อุปาลิวาทสูตร
จากนั้น อุบาลีคหบดีเห็นธรรม บรรลุธรรม รู้ธรรม หยั่งลงสู่ธรรม หมดความ
สงสัย ไม่มีคำถามใด ๆ มีความแกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อใครอีกในหลักคำสอนของ
พระศาสดา ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เอาเถิด บัดนี้
ข้าพระองค์ขอทูลลากลับ เพราะมีกิจมีหน้าที่ที่จะต้องทำอีกมาก
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า คหบดี เธอจงกำหนดเวลาที่สมควร ณ บัดนี้เถิด
[70] จากนั้น อุบาลีคหบดีชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว
ลุกจากที่นั่งถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วกลับไปยังที่อยู่
ของตน เรียกนายประตูมาสั่งว่า
นายประตูเพื่อนรัก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะปิดประตูกันพวกนิครนถ์ทั้งชาย
และหญิง แต่เราจะเปิดประตูไว้สำหรับพระผู้มีพระภาคและสาวกของพระผู้มีพระภาค
คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ถ้านิครนถ์คนใดคนหนึ่งมา ท่านพึงบอก
อย่างนี้ว่า หยุดก่อนท่าน อย่าเข้าไปเลย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อุบาลีคหบดีเป็น
สาวกของพระสมณโคดมแล้ว อุบาลีคหบดีปิดประตูกันพวกนิครนถ์ทั้งชายและหญิง
แต่เปิดประตูไว้สำหรับพระผู้มีพระภาคและสาวกของพระผู้มีพระภาค คือ ภิกษุ
ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา หากท่านต้องการอาหารก็จงรออยู่ที่นี่แหละ จะมีคน
นำมาให้ที่นี่เอง
นายประตูรับคำอุบาลีคหบดีแล้ว
[71] นิครนถ์ชื่อทีฆตปัสสีได้ยินว่า ข่าวว่า อุบาลีคหบดีเป็นสาวกของ
พระสมณโคดมแล้ว ลำดับนั้น จึงเข้าไปหานิครนถ์ นาฏบุตรถึงที่อยู่แล้วถามว่า
ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้ยินว่า ข่าวว่า อุบาลีคหบดีเป็นสาวกของพระสมณโคดมแล้ว
นิครนถ์ นาฏบุตรตอบว่า ตปัสสี เป็นไปไม่ได้เลยที่อุบาลีคหบดีจะพึงเป็น
สาวกของพระสมณโคดมนั้น แต่เป็นไปได้ที่พระสมณโคดมจะพึงเป็นสาวกของ
อุบาลีคหบดี
แม้ครั้งที่ 2 นิครนถ์ชื่อทีฆตปัสสีก็ได้กล่าวกับนิครนถ์ นาฏบุตรว่า ท่าน
ผู้เจริญ ข้าพเจ้าได้ยินว่า ข่าวว่า อุบาลีคหบดีเป็นสาวกของพระสมณโคดมแล้ว