เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 8. วาเสฏฐสูตร

เราเรียกบุคคลผู้หมดสิ้นตัณหา
ที่นำไปเกิดในภพทั้ง 3 มีจิตไม่มัวหมอง
ผ่องใสบริสุทธิ์ดุจดวงจันทร์วันเพ็ญ
ที่ปราศจากเมฆหมอกว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลผู้ข้ามพ้นทางอ้อมคือราคะ
ทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อคือกิเลส สังสารวัฏฏ์ และโมหะได้แล้ว
เป็นผู้ข้ามโอฆะไปถึงฝั่ง มีจิตเพ่งพินิจอยู่เสมอ
ไม่หวั่นไหว หมดความสงสัยว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลในโลกนี้ ผู้ละกามทั้งหลาย
บวชเป็นบรรพชิต สิ้นภวตัณหาแล้วว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลในโลกนี้ ผู้ละตัณหาได้แล้ว
บวชเป็นบรรพชิต สิ้นกามและภพแล้วว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลผู้ละโยคะที่เป็นของมนุษย์แล้ว
ล่วงพ้นโยคะที่เป็นของทิพย์เสียได้
มีจิตหลุดพ้นจากโยคะทั้งหมดว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลผู้ละได้ทั้งความยินดี1 และความยินร้าย2
เป็นผู้สงบเยือกเย็น ปราศจากอุปธิกิเลส
ครอบงำโลกคือขันธ์ทั้งหมดได้ มีความเพียรว่า เป็นพราหมณ์
เราเรียกบุคคลผู้รู้ชัดการจุติและการเกิด
ของสัตว์ทั้งหลายโดยอาการทั้งปวง
เป็นผู้ไม่ติดข้องดำเนินไปด้วยดี
รู้แจ้งอริยสัจว่า เป็นพราหมณ์