เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 1. พรหมายุสูตร

เว้นอยู่ 2 ประการ คือ (1) พระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก (2) พระชิวหาใหญ่
จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใสในลักษณะมหาบุรุษอีก 2 ประการ
ต่อจากนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า
“ข้าแต่ท่านพระโคดม ลักษณะมหาบุรุษ
ที่ข้าพระองค์ได้สดับมาว่ามี 32 ประการ
แต่ยังไม่เห็นอยู่ 2 ประการในพระวรกายของพระองค์
ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดกว่านรชน
พระคุยหฐานของพระองค์เร้นอยู่ในฝัก
ที่ผู้รู้กล่าวกันว่าคล้ายของนารีหรือ
พระชิวหาของพระองค์ได้นรลักษณ์หรือ
พระองค์มีพระชิวหาใหญ่หรือ
ข้าพระองค์จะพึงทราบความข้อนั้นได้อย่างไร
ขอพระองค์ทรงค่อย ๆ นำพระลักษณะนั้นออกมาเถิด
ขอได้โปรดกำจัดความสงสัยของข้าพระองค์ด้วยเถิด ท่านฤาษี
ถ้าพระองค์ทรงประทานโอกาส
ข้าพระองค์จะขอทูลถามปัญหา
ที่ข้าพระองค์ปรารถนาบางอย่าง
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน
และเพื่อความสุขในสัมปรายภพ”
[392] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทรงดำริว่า “พรหมายุพราหมณ์นี้เห็น
ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการของเราโดยมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ (1) คุยหฐาน
อันเร้นอยู่ในฝัก (2) ชิวหาใหญ่ จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่น้อมใจเชื่อ ไม่เลื่อมใส
ในลักษณะมหาบุรุษอีก 2 ประการ”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 13 หน้า :485 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [5. พราหมณวรรค] 1. พรหมายุสูตร

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคจึงทรงบันดาลอิทธาภิสังขารให้พรหมายุพราหมณ์
ได้เห็นพระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก และทรงแลบพระชิวหา สอดเข้าในช่องพระกรรณ
ทั้ง 2 ข้างกลับไปกลับมา ทรงสอดเข้าในช่องพระนาสิกทั้ง 2 ข้างกลับไปกลับมา
ทรงแผ่พระชิวหาปิดทั่วมณฑลพระนลาฏ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับ
พรหมายุพราหมณ์ด้วยพระคาถาว่า
“พราหมณ์ ลักษณะมหาบรุษ
ที่ท่านได้สดับมาว่ามี 32 ประการนั้น
มีอยู่ในกายของเราครบทุกอย่าง ท่านอย่าสงสัย
พราหมณ์ สิ่งที่ควรรู้เราได้รู้ยิ่งแล้ว
สิ่งที่ควรเจริญเราได้เจริญแล้ว
และสิ่งที่ควรละเราก็ละได้แล้ว
เพราะเหตุนั้น เราจึงเป็นพุทธะ
ท่านได้รับโอกาสแล้ว จงถามปัญหาบางอย่าง
ที่ท่านปรารถนาเถิด
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน
และเพื่อความสุขในสัมปรายภพ”
[393] ครั้งนั้นแล พรหมายุพราหมณ์ได้คิดว่า“เราเป็นผู้ที่พระสมณโคดม
ประทานโอกาสแล้ว จะทูลถามถึงประโยชน์ในปัจจุบันหรือประโยชน์ในสัมปรายภพ”
ลำดับนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้คิดว่า “เราฉลาดประโยชน์ในปัจจุบัน แม้คนเหล่าอื่น
ก็ถามเราถึงประโยชน์ในปัจจุบัน ทางที่ดี เราควรทูลถามประโยชน์ในสัมปรายภพ
กับพระสมณโคดมเถิด”
ต่อจากนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ด้วยคาถาว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
บุคคลเป็นพราหมณ์ได้อย่างไร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 13 หน้า :486 }