เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [3. ปริพพาชกวรรค]
7. มหาสกุลุทายิสูตร

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์พิจารณาเห็นธรรม 5 ประการนี้แล ที่มีอยู่
ในพระผู้มีพระภาคซึ่งเป็นเหตุให้สาวกทั้งหลายสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอกจาก
สักการะ เคารพแล้วก็ยังอาศัยพระผู้มีพระภาคอยู่”
[242] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “อุทายี ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจ
ดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดมเสวยพระกระยาหารน้อย และทรงกล่าวสรรเสริญความเป็น
ผู้มีอาหารน้อย’ อนึ่ง สาวกทั้งหลายของเราฉันอาหารเพียง 1 โกสะ1ก็มี เพียงครึ่ง
โกสะก็มี เพียงเท่าผลมะตูมก็มี เพียงครึ่งผลมะตูมก็มี ส่วนเราสิบางครั้งฉันอาหาร
เสมอขอบปากบาตรนี้ก็มี ยิ่งกว่าก็มี ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ เคารพ
นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจดังนี้ว่า
‘พระสมณโคดมเสวยพระกระยาหารน้อย และทรงกล่าวสรรเสริญความเป็นผู้มี
อาหารน้อย’ สาวกทั้งหลายของเราผู้ที่ฉันอาหารเพียง 1 โกสะบ้าง เพียงครึ่ง
โกสะบ้าง เพียงเท่าผลมะตูมบ้าง เพียงครึ่งผลมะตูมบ้าง ก็คงจะไม่สักการะ เคารพ
นับถือ บูชาเรา แล้วอาศัยเราอยู่โดยธรรมนี้ (1)
ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ
เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดมทรงสันโดษด้วยจีวร
ตามมีตามได้ และทรงกล่าวสรรเสริญความสันโดษด้วยจีวรตามมีตามได้’ อนึ่ง
สาวกทั้งหลายของเราเป็นผู้ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ทั้งครองจีวรเศร้าหมองด้วย
เธอเหล่านั้นเลือกเก็บผ้าที่ไม่มีชายจากป่าช้าบ้าง จากกองหยากเยื่อบ้าง จากร้าน
ตลาดบ้าง นำมาทำเป็นผ้าสังฆาฏิใช้ก็มี ส่วนเราสิบางคราวก็ใช้คหบดีจีวรเนื้อแน่น
เย็บด้วยเส้นด้ายเหนียว เส้นด้ายละเอียดเช่นกับขนน้ำเต้า ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึง
สักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ เคารพแล้วก็อาศัยเราอยู่ด้วยเข้า
ใจดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดมทรงสันโดษด้วยจีวรตามมีตามได้ และทรงกล่าวสรรเสริญ


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [3. ปริพพาชกวรรค]
7. มหาสกุลุทายิสูตร

ความสันโดษด้วยจีวรตามมีตามได้’ สาวกทั้งหลายของเราผู้ที่ถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
ผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง เลือกเก็บผ้าที่ไม่มีชายจากป่าช้าบ้าง จากกองหยากเยื่อบ้าง
จากร้านตลาดบ้าง มาทำเป็นผ้าสังฆาฏิใช้ ก็คงจะไม่สักการะ เคารพ นับถือ
บูชาเรา แล้วอาศัยเราอยู่โดยธรรมนี้ (2)
ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ
เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดมทรงสันโดษด้วย
บิณฑบาตตามมีตามได้ และทรงกล่าวสรรเสริญความสันโดษด้วยบิณฑบาตตามมี
ตามได้’ อนึ่ง สาวกทั้งหลายของเราเป็นผู้ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ถือการเที่ยวบิณฑบาต
ตามลำดับตรอกเป็นวัตร ยินดีในวัตรคือการรับภัตตาหารทั้งดีทั้งเลว เธอเหล่านั้น
เมื่อเข้าไปถึงละแวกบ้านแล้ว ถึงใครจะนิมนต์ด้วยอาสนะก็ไม่ยินดี ส่วนเราสิ
บางครั้งก็ฉันในที่นิมนต์ แต่ล้วนเป็นข้าวสุกแห่งข้าวสาลีที่เขานำกากออกแล้ว มีแกง
และกับหลายอย่าง ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา
นอกจากสักการะ เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดม
ทรงสันโดษด้วยบิณฑบาตตามมีตามได้ และทรงกล่าวสรรเสริญความสันโดษด้วย
บิณฑบาตตามมีตามได้’ สาวกทั้งหลายของเราผู้ที่ถือบิณฑบาตเป็นวัตร ถือการเที่ยว
บิณฑบาตตามลำดับตรอกเป็นวัตร ยินดีในวัตรคือการรับภัตตาหารทั้งดีทั้งเลว
เมื่อเข้าไปยังละแวกบ้านแล้ว ถึงใครจะนิมนต์ด้วยอาสนะก็ไม่ยินดี ก็คงจะไม่สักการะ
เคารพ นับถือ บูชาเรา แล้วอาศัยเราอยู่โดยธรรมนี้ (3)
ถ้าสาวกทั้งหลายจะพึงสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ
เคารพแล้วก็ยังอาศัยเราอยู่ด้วยเข้าใจดังนี้ว่า ‘พระสมณโคดมทรงสันโดษด้วย
เสนาสนะตามมีตามได้ และทรงกล่าวสรรเสริญความสันโดษด้วยเสนาสนะตามมีตามได้’
อนึ่ง สาวกทั้งหลายของเราถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร ถือการอยู่กลางแจ้งเป็นวัตร
เธอเหล่านั้นไม่เข้าไปที่มุงตลอด 8 เดือน ส่วนเราสิบางครั้งอยู่ในเรือนยอดที่ฉาบทา
ทั้งข้างในและข้างนอก ลมเข้าไม่ได้ มีลิ่มชิดสนิทดี มีหน้าต่างเปิดปิดได้ ถ้าสาวก
ทั้งหลายจะพึงสักการะเคารพ นับถือ บูชาเรา นอกจากสักการะ เคารพแล้วก็ยัง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 13 หน้า :287 }