พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [2. ภิกขุวรรค] 10. กีฏาคิริสูตร
ไม่ พระพุทธเจ้าข้า
ภิกษุทั้งหลาย เพราะข้อนี้เรารู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว ทำให้แจ้งแล้ว
สัมผัสแล้วด้วยปัญญาว่า เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้เสวยทุกขเวทนาเห็นปานนี้อยู่
อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ ฉะนั้น เราจึงกล่าวว่า เธอทั้งหลาย
จงเข้าถึงทุกขเวทนาเห็นปานนี้อยู่เถิด
[180] ภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้ถ้าเราไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่ทำให้แจ้ง
ไม่สัมผัสแล้วด้วยปัญญาว่า เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้เสวยอทุกขมสุขเวทนาเห็น
ปานนี้อยู่ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม เราเมื่อไม่รู้อย่างนี้ จะพึง
กล่าวว่า เธอทั้งหลายจงละอทุกขมสุขเวทนาเห็นปานนี้เถิด ข้อนี้เป็นการสมควรแก่
เราหรือไม่
ไม่ พระพุทธเจ้าข้า
เพราะข้อนี้เรารู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว ทำให้แจ้งแล้ว สัมผัสแล้วด้วย
ปัญญาว่า เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้เสวยอทุกขมสุขเวทนาเห็นปานนี้อยู่ อกุศลธรรม
ย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม ฉะนั้น เราจึงกล่าวว่า เธอทั้งหลายจงละอทุกขม-
สุขเวทนาเห็นปานนี้เถิด ข้อนี้ถ้าเราไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่ทำให้แจ้ง ไม่สัมผัส
ด้วยปัญญาว่า เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้เสวยอทุกขมสุขเวทนาเห็นปานนี้อยู่
อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ เราเมื่อไม่รู้อย่างนี้ จะพึงกล่าวว่า
เธอทั้งหลายจงเข้าถึงอทุกขมสุขเวทนาเห็นปานนี้อยู่เถิด ข้อนี้จักเป็นการสมควร
แก่เราหรือไม่
ไม่ พระพุทธเจ้าข้า
ภิกษุทั้งหลาย เพราะข้อนี้เรารู้แล้ว เห็นแล้ว ทราบแล้ว ทำให้แจ้งแล้ว
สัมผัสแล้วด้วยปัญญาว่า เมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้เสวยอทุกขมสุขเวทนาเห็น
ปานนี้อยู่ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ ฉะนั้น เราจึงกล่าวว่า
เธอทั้งหลายจงเข้าถึงอทุกขมสุขเวทนาเห็นปานนี้อยู่เถิด
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [2. ภิกขุวรรค] 10. กีฏาคิริสูตร
[181] ภิกษุทั้งหลาย เรามิได้กล่าวว่า ภิกษุทั้งหมดจะต้องทำกิจที่ควรทำ
ด้วยความไม่ประมาท ทั้งมิได้กล่าวว่า ภิกษุทั้งหมดไม่ต้องทำกิจที่ควรทำด้วย
ความไม่ประมาท ภิกษุเหล่าใดเป็นอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทำกิจที่
ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระแล้ว บรรลุประโยชน์ตนแล้ว สิ้นภวสังโยชน์แล้ว หลุดพ้น
แล้วเพราะรู้โดยชอบ เราย่อมกล่าวว่า ภิกษุเห็นปานนั้นไม่ต้องทำกิจที่ควรทำด้วย
ความไม่ประมาท
ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะภิกษุนั้นได้ทำกิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาทเสร็จแล้ว และภิกษุเหล่านั้น
จัดเป็นผู้ไม่ประมาทต่อไป
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่าใดเป็นเสขะยังไม่สำเร็จเป็นอรหันต์ ยังปรารถนาธรรม
ที่เป็นแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยี่ยมอยู่ เรากล่าวว่า ภิกษุเห็นปานนั้น ต้องทำกิจ
ที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท
ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะเราเห็นผลแห่งความไม่ประมาทของภิกษุเหล่านี้เช่นนี้ว่า จะเป็นการดี
ถ้าท่านเหล่านี้ เมื่อใช้สอยเสนาสนะที่สมควร1 คบหากัลยาณมิตร ปรับอินทรีย์ให้เสมอ
จะพึงทำให้แจ้งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออก
จากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ใน
ปัจจุบัน จึงกล่าวว่า ภิกษุเห็นปานนั้นต้องทำกิจที่ควรทำด้วยความไม่ประมาท