พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [2. ภิกขุวรรค] 1. จูฬราหุโลวาทสูตร
ที่มีชาติกำเนิดดี เคยฝ่าศึกสงครามมาแล้ว บุกบั่นสงครามมาแล้ว ทำการงานด้วย
เท้าหน้าทั้ง 2 บ้าง ด้วยเท้าหลังทั้ง 2 บ้าง ด้วยกายท่อนหน้าบ้าง ด้วยกายท่อน
หลังบ้าง ด้วยศีรษะบ้าง ด้วยหูทั้ง 2 บ้าง ด้วยงาทั้ง 2 บ้าง ด้วยหางบ้าง ด้วยงวงบ้าง
ชื่อว่าช้างต้นสละได้กระทั่งชีวิต บัดนี้ ไม่มีอะไรที่ช้างต้นจะทำไม่ได้ แม้ฉันใด
ตถาคตก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไม่กล่าวว่า บุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวเท็จ
ทั้งที่รู้อยู่ จะไม่ทำบาปกรรมอะไรเลย
ราหุล เพราะเหตุนั้นแล เธอพึงสำเหนียกในเรื่องนี้อย่างนี้ว่า เราจักไม่
กล่าวเท็จ แม้เพื่อให้หัวเราะกันเล่น เธอพึงสำเหนียกอย่างนี้แล ราหุล
ทรงสอนให้พิจารณากายกรรม
[109] พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ราหุล เธอเข้าใจความข้อนั้นว่าอย่างไร
กระจกมีประโยชน์อย่างไร
ท่านพระราหุลทูลตอบว่า มีประโยชน์สำหรับส่องดู พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า อย่างนั้นเหมือนกัน ราหุล บุคคลควรพิจารณาให้ดี
แล้วจึงทำกรรมทางกาย พิจารณาให้ดีแล้วจึงทำกรรมทางวาจา พิจารณาให้ดีแล้ว
จึงทำกรรมทางใจ
ถ้าเธอปรารถนาจะทำกรรมใดทางกาย เธอพึงพิจารณากายกรรมนั้นเสีย
ก่อนว่า กายกรรมที่เราปรารถนาจะทำนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เพื่อ
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์
เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก กระนั้นหรือ
ถ้าเธอพิจารณาอยู่พึงรู้อย่างนี้ว่า กายกรรมที่เราปรารถนาจะทำนี้ เป็นไป
เพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง
กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก กรรมทางกายเห็นปานนี้
เธออย่าทำเด็ดขาด
พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [2. ภิกขุวรรค] 1. จูฬราหุโลวาทสูตร
แต่ถ้าเธอพิจารณาอยู่พึงรู้อย่างนี้ว่า กายกรรมที่เราปรารถนาจะทำนี้ไม่เป็นไป
เพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้ง
2 ฝ่ายบ้าง กายกรรมนี้เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก กรรมทางกายเห็น
ปานนี้เธอควรทำ
ราหุล เธอแม้เมื่อกำลังทำกรรมทางกาย ก็พึงพิจารณากายกรรมนั้นแลว่า
กายกรรมที่เราจะทำนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ผู้อื่นบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็น
กำไร มีทุกข์เป็นวิบาก กระนั้นหรือ
ถ้าเธอพิจารณาอยู่พึงรู้อย่างนี้ว่า กายกรรมที่เราจะทำนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ตนเองบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง
กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก เธอพึงละกายกรรมเห็น
ปานนี้เสีย
แต่ถ้าเธอพิจารณาอยู่พึงรู้อย่างนี้ว่า กายกรรมที่เราจะทำนี้ ไม่เป็นไปเพื่อ
เบียดเบียนตนเองบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง กายกรรมนี้เป็นกุศล มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก เธอพึงเพิ่มพูน
กายกรรมเห็นปานนี้
ราหุล แม้เธอทำกรรมทางกายแล้ว ก็พึงพิจารณากายกรรมนั้นแลว่า
กายกรรมที่เราทำแล้วนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ผู้อื่นบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็น
กำไร มีทุกข์เป็นวิบากกระนั้นหรือ
ถ้าเธอพิจารณาอยู่พึงรู้อย่างนี้ว่า กายกรรมที่เราทำแล้วนี้ เป็นไปเพื่อเบียดเบียน
ตนเองบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้ง 2 ฝ่ายบ้าง
กายกรรมนี้เป็นอกุศล มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก กายกรรมเห็นปานนี้
เธอพึงแสดง เปิดเผย ทำให้ง่าย ในศาสดา หรือในเพื่อนพรหมจารีผู้รู้ทั้งหลาย
แล้วสำรวมต่อไป