เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค] 9. สัมมาทิฏฐิสูตร

อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งผัสสะ
เมื่อใด พระอริยสาวกรู้ชัดผัสสะ เหตุเกิดแห่งผัสสะ ความดับแห่งผัสสะ และ
ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งผัสสะอย่างนี้ เมื่อนั้น ท่านละราคานุสัยโดยประการ
ทั้งปวง ฯลฯ เป็นผู้ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ พระอริยสาวก
ก็ชื่อว่ามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรง มีความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระ
สัทธรรมนี้"

เรื่องอายตนะ

[99] ภิกษุเหล่านั้นชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระสารีบุตรว่า "ดีจริง ขอรับ"
แล้วได้ถามปัญหากับท่านพระสารีบุตรต่อไปว่า "ฯลฯ จะพึงมีอยู่หรือ"
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "พึงมีอยู่ เมื่อใด พระอริยสาวกรู้ชัดอายตนะ 6
ประการ เหตุเกิดแห่งอายตนะ 6 ประการ ความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ
และข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ เมื่อนั้น แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้
พระอริยสาวกก็ชื่อว่ามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรง มีความเลื่อมใสอันแน่วแน่
ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้
อายตนะ 6 ประการ เป็นอย่างไร เหตุเกิดแห่งอายตนะ 6 ประการ
เป็นอย่างไร ความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ เป็นอย่างไร ข้อปฏิบัติให้ถึง
ความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ เป็นอย่างไร
อายตนะ 6 ประการนี้ คือ
1. จักขวายตนะ (อายตนะคือตา)
2. โสตายตนะ (อายตนะคือหู)
3. ฆานายตนะ (อายตนะคือจมูก)
4. ชิวหายตนะ (อายตนะคือลิ้น)
5. กายายตนะ (อายตนะคือกาย)
6. มนายตนะ (อายตนะคือใจ)
เพราะนามรูปเกิด เหตุเกิดแห่งอายตนะ 6 ประการจึงมี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :94 }


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค] 9. สัมมาทิฏฐิสูตร

เพราะนามรูปดับ ความดับแห่งอายตนะ 6 ประการจึงมี
อริยมรรคมีองค์ 8 ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ 8. สัมมาสมาธิ
นี้แลเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ
เมื่อใด พระอริยสาวกรู้ชัดอายตนะ 6 ประการ เหตุเกิดแห่งอายตนะ 6
ประการ ความดับแห่งอายตนะ 6 ประการ และข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่ง
อายตนะ 6 ประการ อย่างนี้ เมื่อนั้น ท่านละราคานุสัยโดยประการทั้งปวง ฯลฯ
เป็นผู้ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ พระอริยสาวกก็ชื่อว่ามีสัมมาทิฏฐิ
มีความเห็นตรง มีความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้"

เรื่องนามรูป

[100] ภิกษุเหล่านั้นชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระสารีบุตรว่า "ดีจริง
ขอรับ" แล้วได้ถามปัญหากับท่านพระสารีบุตรต่อไปว่า "ฯลฯ จะพึงมีอยู่หรือ"
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "พึงมีอยู่ เมื่อใด พระอริยสาวกรู้ชัดนามรูป
เหตุเกิดแห่งนามรูป ความดับแห่งนามรูป และข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งนามรูป
เมื่อนั้น แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ พระอริยสาวกก็ชื่อว่ามีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรง
มีความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้
นามรูป เป็นอย่างไร เหตุเกิดแห่งนามรูป เป็นอย่างไร ความดับแห่งนามรูป
เป็นอย่างไร ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งนามรูป เป็นอย่างไร
เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ นี้เรียกว่า นาม มหาภูตรูป 4 (ได้แก่
ดิน น้ำ ลม ไฟ) และรูปที่อาศัยมหาภูตรูป 4 (อุปาทายรูป 24) นี้เรียกว่า รูป
นามและรูปดังกล่าวนี้ เรียกว่า นามรูป
เพราะวิญญาณเกิด เหตุเกิดแห่งนามรูปจึงมี
เพราะวิญญาณดับ ความดับแห่งนามรูปจึงมี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :95 }