เมนู

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ [1. มูลปริยายวรรค] 7. วัตถูปมสูตร

หมดจด ใส่ลงในน้ำย้อมสี คือ สีเขียว สีเหลือง สีแดง หรือสีชมพู ผ้าผืนนั้น
จะพึงเป็นผ้าที่ย้อมได้ดี มีสีสดใส ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผ้าผืนนั้นเป็นผ้าที่สะอาด
แม้ฉันใด เมื่อจิตไม่เศร้าหมอง สุคติ1ก็เป็นอันหวังได้ ฉันนั้นเหมือนกัน

อุปกิเลสแห่งจิต 16 ชนิด

[71] ภิกษุทั้งหลาย อุปกิเลส2แห่งจิต อะไรบ้าง คือ
1. อภิชฌาวิสมโลภะ(ความโลภไม่สม่ำเสมอคือความเพ่งเล็งอยากได้
สิ่งของของผู้อื่น) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต

2. พยาบาท(ความคิดปองร้ายผู้อื่น) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต
3. โกธะ(ความโกรธ) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต
4. อุปนาหะ(ความผูกโกรธ) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต
5. มักขะ(ความลบหลู่คุณท่าน) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต
6. ปฬาสะ(ความตีเสมอ) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต
7. อิสสา(ความริษยา) เป็นอุปกิเลสแห่งจิต

เชิงอรรถ :
1 สุคติ มี 2 อย่าง คือ (1) ปฏิปัตติสุคติ หมายถึงคติ คือการปฏิบัติดีด้วยจิตบริสุทธิ์แบ่งเป็น 2 อย่าง ได้แก่
อาคาริยปฏิปัตติสุคติ มีจิตบริสุทธิ์งดเว้นจากการฆ่าสัตว์บ้าง จากการลักทรัพย์บ้าง บำเพ็ญกุศลกรรมบถ
10 ให้บริบูรณ์ อนาคาริยปฏิปัตติสุคติ คือสุคติของบรรพชิตผู้มีจิตบริสุทธิ์ รักษาปาริสุทธิศีล 4 ให้บริสุทธิ์
สมาทานธุดงค์ 13 ข้อ เรียนกัมมัฏฐานในอารมณ์ 38 ประการ กระทำกสิณบริกรรม ทำฌาณสมาบัติให้
เกิดขึ้น เจริญโสดาปัตติมรรค ฯลฯ อนาคามิมรรค (2) คติสุคติ หมายถึงคติหรือภูมิเป็นที่ไปอันเป็นสุข
แบ่งเป็น 2 อย่าง ได้แก่ อาคาริยสุคติ คือสุคติของคฤหัสถ์ผู้ตายแล้วไปเกิดเป็นมนุษย์ที่มีชาติตระกูลสูง
มั่งคั่งด้วยทรัพย์ เพียบพร้อมด้วยเกียรติยศบ้าง เป็นเทวดาที่มีศักดิ์ใหญ่บ้าง และอนาคาริยสุคติ คือคติ
ของบรรพชิตผู้มรณภาพแล้วไปเกิดในตระกูลกษัตริย์ ตระกูลพราหมณ์ และตระกูลคหบดี หรือไปเกิดใน
กามาวจรเทวโลก 6 ชั้นบ้าง ในพรหมโลก 10 ชั้น ในสุทธาวาสภูมิ 5 ชั้น หรือในอรูปพรหม 4 ชั้นบ้าง
(ม.มู.อ. 1/70/180)
2 อุปกิเลส หมายถึงกิเลสที่จรมาด้วยอำนาจโลภะ โทสะ และโมหะ แล้วทำจิตเดิม(ภวังคจิต)ที่แม้ปกติก็
บริสุทธิ์อยู่แล้วให้ต้องเศร้าหมอง (ม.มู.อ. 1/71/181, อง.เอกก.อ. 1/49/53)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 12 หน้า :63 }